WHA ลุ้นยอดขายที่ดินปีนี้ทะลุ 820 ไร่ จ่อบุ๊กกำไรขายสินทรัพย์เข้า “กองทรัสต์” 2 พันลบ.

WHA คาดยอดขายที่ดินปีนี้ทะลุ 820 ไร่ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศดีขึ้น พร้อมตั้งเป้ายอดขายที่ดินปี 65 เติบโต 20-30% พร้อมทุ่มงบ 300 ล้านบาท ลงทุนสตาร์ทอัพหนุนแผนมุ่งสู่บริษัทด้านเทคโนโลยีในอนาคต


นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 65 เติบโต 20-30% จากปีนี้วางเป้าหมายที่ 820 ไร่ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีโอกาสทำยอดขายที่ดินทะลุเป้าหมาย 820 ไร่ได้อย่างแน่นอน หลังจากยอดขายมากระจุกตัวในช่วงไตรมาส 4/64 หลังจากช่วง 9 เดือนแรกมียอดขายแล้ว 285 ไร่ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศดีขึ้น และมีการเปิดประเทศ ทำให้นักลงทุนสามารถเดินทางเข้ามาสำรวจที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทได้ และได้มีการกลับมาทยอยเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณบวกของการกลับมาของนักลงทุน

ด้านธุรกิจโลจิสติกส์บริษัทยังคงเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ใหม่ราว 175,000 ตารางเมตร ขณะที่สัญญาเช่าพื้นที่ระยะสั้นสามารถทำได้ดีกว่าเป้าไปอยู่ที่ 112,000 ตารางเมตรแล้ว จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 50,000 ตารางเมตร และคาดว่าทั้งปีนี้การเช่าพี้นที่คลังสินค้าจะไปแตะ 120,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมขายสินทรัพย์ ได้แก่ โครงการ Built-to-Suit Warehouse และ General Warehouses ขนาด 180,000 ตารางเมตร เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) มูลค่า 5.5 พันล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะมีการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART เข้ามาราว 2 พันล้านบาท

ส่วนธุรกิจน้ำและไฟฟ้าของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP ยังคงเป้ายอดขายน้ำไว้ที่ 153 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 64 ขณะที่บริการด้านพลังงานคาดว่าจะมีการได้รับสัญญาขายไฟฟ้า (PPA) เข้ามาเพิ่มอีกในช่วงไตรมาส 4/64 ทำให้ในปีนี้ WHAUP จะคว้า PPA เพิ่มได้ตามเป้า 90 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มี PPA ใหม่เข้ามาแล่ว 85 เมกะวัตต์

นางสาวจรีพร กล่าวเพิ่มว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมและการลงทุนไทยนั้นจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นอยู่กับภาครัฐว่าจะมีการกระตุ้นการลงทุนมากเท่าใดรวมถึงการเร่งการฉีดวัคซีนในประเทศซึ่งจะเป็นตัวช่วยสร้างความมั่นใจ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) โดยภาครัฐควรดึงเม็ดเงินที่กระจายอยู่ทั่วโลกเข้ามาในประเทศให้ได้ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ด้วยการให้สิทธิประโยชน์จากการลงทุน เพราะหากมองวิกฤติครั้งนี้ไม่เหมือนกับวิกฤติปี 40 เพราะยังเห็นการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง และเงินทุนสำรองธนาคารพาณิชย์ก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก สามารถสนับสนุนภาคเอกชนให้ลงทุนเพิ่มได้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้เงิน

ขณะที่ในปี 2565 บริษัทวางงบลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพราว 300 ล้านบาทเพื่อการผลักดัน WHA เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีในอนาคต โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้เงินลงทุนราว 260 ล้านบาทในการเข้าเป็นผู้ร่วมลงทุนหลักในการระดมทุนของสตาร์อัพผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรกับบัวหลวงเวนเจอร์ส และ GIZTIX เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Digital Innovation and Transformation ของ WHA ที่มุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการแบบครบวงจรร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ และสร้างมูลค่าและคุณภาพที่มากยิ่งขึ้นให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท

 

Back to top button