SET เช้ารีบาวด์ 22 จุด รับแรงซื้อกลับหุ้นบิ๊กแคป-ฟื้นตามตปท. คลายกังวล “โอไมครอน”

SET เช้ารีบาวด์ 22 จุด ตามตปท. รับแรงซื้อกลับหลังร่วงแรง-คลายกังวล “โอไมครอน” หลังอาการไม่รุนแรง และราคาน้ำมัน-ค่าการกลั่นก็ฟื้นตัวขึ้น จากการเก็งผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย ณ เวลา 10.14 น. อยู่ที่ 1,611.26 จุด เพิ่มขึ้น 21.57 จุด หรือ 1.36% สูงสุดที่ 1,611.38 จุด ต่ำสุดที่ 1,601.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14.54 หมื่นล้านบาท

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้หลังจากที่ปรับตัวลงหนักในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปปิดเมื่อคืนที่ผ่านมาก็อยู่ในแดนบวกได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกกันเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนยืนยันว่า สหรัฐไม่มีแผนล็อกดาวน์เศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน นักลงทุนก็คลายความกังวลและมีแรงซื้อกลับเข้ามา

นอกจากนี้ราคาน้ำมันก็ฟื้นตัวขึ้นได้ จากการเก็งผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ คาดการณ์ว่าจะมีการะงับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนมกราคม หลังจากที่ได้ประเมินไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนจะมีผลต่อปริมาณการใช้น้ำมัน ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ และค่าการกลั่นก็ดีดตัวขึ้นได้บ้างด้วย

อย่างไรก็ดีให้ติดตาม MSCI Rebalance ซึ่งจะมีผลในวันนี้ ทำให้อาจมีแรงขายหุ้นหลักแต่ไม่น่าจะมีนัยยะมาก และ Sentiment ตลาดฯที่ดีในวันนี้อาจช่วยหนุนได้

ทั้งนี้พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,572 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,608 จุด

ด้านบล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (30 พ.ย.64) คาด SET มี Technical rebound แนวต้าน 1,600 จุด หลังสหรัฐยืนยันไม่ Lockdown เพื่อสกัดการแพร่ระบาด Covid-19 สายพันธุ์ Omicron ประกอบกับผู้เชี่ยวชาญระบุว่าผู้ที่ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง ยังสามารถรับรสและได้กลิ่น ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวล อย่างไรก็ตามการแพร่ระบาด Covid-19 รอบใหม่ในยุโรปจะเป็นตัวกดดันเศรษฐกิจโลกและส่งผลให้ Fund flow ผันผวนต่อไป

ส่วนบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (30 พ.ย.64) ว่า แนวโน้มตลาดคาด SET Index มีโอกาสเกิด Technical Rebound ระยะสั้นหลังปรับตัวลง 2 วันเกือบ 60 จุดหรือราว 3.6% และยืนใกล้บริเวณแนวรับหลัก1,590 จุด ขณะที่บรรยากาศการลงทุน ทั่วโลกคลายกังวลโอไมครอนขึ้นบ้างทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง กลยุทธ์ระยะสั้นจึงเน้นเลือกลงทุน ในหุ้นที่ได้รับผลกระทบจำกัดหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ทั่วโลก ได้แก่ การแพทย์ ส่งออก โลจิสติกส์ เทคโนโลยี

Back to top button