APCO ตั้งธงปี 65 ดันรายได้โต 20% กำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%

APCO ตั้งเป้าหมายปี 65 รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% กำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80% ชูกลยุทธ์พัฒนางานวิจัย ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ


ศาสตราจารย์ดอกเตอร์พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงาม ยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ท่ามกลางผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงกว่าปี 2563 ทางบริษัทฯจึงได้ปรับแผนการดำเนินงาน ซึ่งส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2564 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยทิศทางธุรกิจในปี 2565 บริษัทยังปรับกลยุทธ์เพิ่มเติมเพื่อผลักดันอัตราการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยหลังจากประสบความสำเร็จในการประกาศเป็นเจ้าของนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดที่ทำให้ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS ตรวจไม่พบเชื้อ โดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และมีสุขภาพแข็งแรงเป็นครั้งแรกของโลก ได้รับการตอบรับที่ดีทำให้ยอดจำหน่ายนวัตกรรมนี้เพิ่มขึ้น 17% ในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี 2565 จากข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด APCO กระตุ้นเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) อย่างมีประสิทธิภาพสูงจนกำจัดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว จึงได้รับความสนใจจากสถานบันการแพทย์ ในการร่วมจัดตั้งศูนย์ในประเทศไทย เพื่อช่วยผู้มีปัญหาจากทั่วโลก คาดว่าจะสามารถจัดตั้งศูนย์นี้ได้สำเร็จในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ APCO มุ่งเน้นความสำคัญของการเป็นผู้นำในการกระตุ้นเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ได้อย่างปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง และนำมาใช้ปรับนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง ในการกระตุ้นเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีแผนจะเปิดตลาดนวัตกรรมที่พัฒนาประสิทธิมากขึ้นภายในไตรมาส 1/65

นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมเพิ่มภูมิคุ้มกันการบำบัดโรคติดเชื้อและมะเร็ง (Boosting Immunity) แล้ว APCO ยังมีแผนปรับปรุงสูตรนวัตกรรมปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล (Balancing Immunity) เพื่อลดปัญหาการแพ้ภูมิตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และขยายตลาดให้รุดหน้ามากขึ้นเคียงคู่กับนวัตกรรมเพิ่มภูมิคุ้มกันบำบัดด้วย

จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่ยังทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นด้วยสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ผู้บริโภคมีความจำเป็นจะต้องดูแลสุขภาพให้มีภูมิต้านทานที่ดีตลอดเวลา ซึ่งนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจะช่วยให้ผู้บริโภคมีคุณภาพชีวิตและภูมิคุ้มกันที่ดี เมื่อติดเชื้อแล้วมีอาการไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ และช่วยให้มีการฟื้นฟูจากอาการ Long COVID-19 ของผู้ติดเชื้อด้วย จึงคาดว่านวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทเร่งเดินหน้าโครงการนวัตกรรมวัฒนชีวา ผลิตภัณฑ์ย้อนวัย/ชะลอวัย โดยวางแผนให้นวัตกรรมนี้เผยแพร่ถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็วที่สุด  ด้วยกิจกรรมการมีส่วนร่วมสร้างสังคมชีวี 100 ปีมีสุข ใน 70 จังหวัดทั่วประเทศไทย ตั้งเป้าให้มีผู้บริโภคถึง 20,000 รายอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริโภคจะได้รับสิทธิ์สะสมค่าสมนาคุณ เพื่อใช้เป็นส่วนลดในการซื้อผลิตภัณฑ์ APCO หรือสามารถแลกเป็นเงินสดเพื่อใช้ลงทุนในหุ้น APCO ได้ปีละ 2 ครั้ง (ภายใต้เขื่อนไขของตลาดหลักทรัพย์ฯ และตามข้อตกลงที่บริษัทกำหนด) ซึ่งจะทำให้ APCO เป็นบริษัทมหาชนร่วมสร้างโดยมหาชนในที่สุด

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการจัดตั้ง บริษัทวิจัย พัฒนาและจำหน่ายนวัตกรรมสูตรพิเศษ สำหรับการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง และรักษาโรคในสัตว์ เช่น FIV ในแมว และ มะเร็งในสุนัข ซึ่งมีผลการทดสอบเบื้องต้นที่น่าพึงพอใจมาก เพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศด้วย

“คณะนักวิจัย APCO พัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี โดยร่วมมือกับสถาบันวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงของประเทศ อาทิ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลรามาธิบดี สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ สถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัยอื่นด้วย ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บริษัทมีงบสำหรับงานวิจัยอยู่ที่ปีละประมาณ 20 ล้านบาท และสามารถเพิ่มงบประมาณขึ้นได้ตามความเหมาะสม เพื่อตอกย้ำการเป็นหนึ่งในบริษัท Health Care Biotech ของไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ว่า APCO เป็นบริษัทนวัตกรรมในการดูแลสุขภาพอย่างแท้จริง” ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทมีแผนขยายฐานกลุ่มลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค มุ่งเน้นการสื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้ง บริษัทมีศูนย์กลางสำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงติดตามอาการและประเมินผลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถช่วยผู้มีปัญหาได้ในวงกว้างมากขึ้น

ด้านการตลาดต่างประเทศพันธมิตรประเทศจีน ยอดขายล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการหารือแนวทางแก้ไขกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งออกได้อีกครั้งในช่วงต้นปี 65 นี้ นอกจากนี้ บริษัทผู้แทนจำหน่ายในประเทศไนจีเรียเริ่มวางแผนให้มีการนำเข้านวัตกรรมของ APCO เข้าไปในทวีปแอฟริกา คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้

โดยศ.ดร.พิเชษฐ์  กล่าวเสริมว่า จากกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรในการนำนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดที่มีประสิทธิภาพของ APCO สร้างการรับรู้และขยายตลาดให้เป็นที่เชื่อมั่น ยอมรับ อย่างแพร่หลายของกลุ่มผู้บริโภค ส่งผลให้สามารถรักษาฐานลูกค้าและยอดจำหน่ายไว้ได้ในเกณฑ์ดี โดยในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80% และสามารถให้ผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นได้เช่นเดิม

Back to top button