YGG แย้มเข้า SET กลางปีนี้ หลังเพิ่มทุน หวังดึงพาร์ทเนอร์ต่างชาติ ลุยขยายธุรกิจเต็มสูบ

YGG แย้มเข้า SET กลางปีนี้ หลังเพิ่มทุน หวังดึงพาร์ทเนอร์ต่างชาติ ลุยขยายธุรกิจเต็มสูบ ผลักดันธุรกิจโตเด่น มอง Growth หรือ High growth ตรงจุดนี้จะเป็นโบนัสก้อนโตถ้าหากสำเร็จ


นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยกับ ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 9 ก.พ.2565 มีประเด็นสำคัญดังนี้

ตั้งเป้าจะเข้าจดทะเบียนใน SET ช่วงไหน

น่าจะช่วงกลางปี 2565 โดย ณ วันนี้บริษัทฯ มีการเติบโตจากปลายน้ำขึ้นมาต้นน้ำ ซึ่งเวลาขึ้นต้นน้ำก็ต้องการขยายฐานทุนเพิ่ม โดยบริษัทฯ มองว่าต้องมีการไป JV กับทางพาร์ทเนอร์ที่อยู่ต่างประเทศ สำหรับการเข้าไปขยายฐานทุนเพื่อเข้า SET นั้น เรียกว่าเป็นการอัพสเกลอย่างหนึ่งของบริษัทฯ ในเรื่องของความน่าเชื่อถือ เรื่องของแบรนด์ดิ้งด้วย และอีกอย่างต้องการเพิ่มธุรกิจจากที่เคยเป็นปลายน้ำในด้านการทำ Digital content ในวันนี้บริษัทฯ เริ่มขึ้นมาเป็นต้นน้ำผลิตโปรดักส์เอง นั่นเท่ากับว่าจะเกิดรายได้ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นด้วย นับเป็นสาเหตุที่เข้า SET

ภาพของต้นน้ำเป็นอย่างไร

จากที่แพลนไว้ ณ วันนี้มีธุรกิจอยู่ 3 ส่วน โดย Visual effect ซึ่งตัวนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนรายรายได้ของธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งคือเกม โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาเกมเอง อย่างเกม Home Sweet Home ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าวันที่กลายเป็นผู้ผลิต บริษัทฯ ก็จะมีฐานลูกค้าที่เป็นแฟนคลับมากขึ้นด้วย

ความคืบหน้าในทางธุรกิจ หลังตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ล่าสุดเป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับในส่วนที่มีการ JV กับ MACO เรียกได้ว่าครบลูป อย่างเช่นการทำเกมขึ้นมาซึ่งการที่บริษัทฯ จับมือกับ MACO นั้นบริษัทฯ ต้องการอิมพอร์ตเกมต่างประเทศเข้ามาไม่ต้องรอบริษัทฯ ผลิต ในขณะเดียวกันก็มีส่วนที่ผลิตเอง โดยส่วนที่ JV กับ MACO สามารถอิมพอร์ตเกมต่างประเทศเข้ามา ดังนั้นตรงจุดนี้จะเป็นการสร้างรายได้ตัวใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งจะครบลูปตรงที่ MACO เป็นในส่วนของออฟไลน์มีเดีย ส่วน YGG ก็ถนัดเรื่องออนไลน์มีเดียอยู่แล้ว โดยคิดว่าเป็นส่วนผสมที่ครบลูปอย่างแท้จริง

กรณีผู้ที่ใช้สิทธิ์เพิ่มทุน YGG ครั้งนี้ จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อชดเชยไดลูทชั่น ที่เกิดจากการเพิ่มทุนอย่างไรบ้าง

น่าจะเป็นในส่วนของธุรกิจของบริษัทฯ ที่จะ Growth ต่อไป หลังการเพิ่มทุน อย่างวันนี้ความเชี่ยวชาญของตัวบริษัทฯ ก็เป็นส่วนของ Digital content ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้ในเทคโนโลยีที่บริษัทฯ เห็น ณ ปัจจุบัน Blockchain นั้นกำลังมา ซึ่งตัวที่กำลัง Drive เป็นกระแสของโลกเลยก็คือ 1.ตัวที่เป็น Metaverse 2.NFT Gaming โดยบริษัทฯ ก็อยู่ในเทรนด์นั้นหมดเลย เพราะฉะนั้นเชื่อว่าบริษัทฯ สามารถใช้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ 15 ปี บวกกับเทคโนโลยีที่เราศึกษามาตลอด ซึ่งคาดว่าตัวนี้ก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนบริษัทฯ ได้

โมเดลการเพิ่มทุนแบบนี้ แสดงว่ามั่นใจจะต้องเป็นบริษัทที่ลักษณะ Super high growth ซึ่งบริษัทเข้าข่ายหรือไม่

เรื่องของการ Growth หรือ High growth ตรงจุดนี้คิดว่า บริษัทฯ และทีมงานจะพยายามใช้ความเชี่ยวชาญทำในสิ่งที่โลกต้องการ โดย Growth หรือ High growth นั้นจะเป็นผลต่อเนื่องว่ามีความสำเร็จมากแค่ไหน ซึ่งส่วนตัวมองว่าตรงจุดนี้จะเป็นโบนัสก้อนโตถ้าหากสำเร็จ

ไดลูทชั่นเอฟเฟกต์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 จะเกิดขึ้นอย่างไร ในสัดส่วนประมาณเท่าไหร่

โดยหลายๆท่านอาจจะคิดคำนวณไว้แล้ว ซึ่งหากคิดง่ายๆคือ 1 หุ้นเดิมได้ 2 หุ้นใหม่ คือถ้าคำนวณแล้วก็เหมือนหาร 3 แต่ทั้งนี้ราคาจะไปอยู่ตรงที่เท่าไหร่ก็เป็นไปตามกลไกของตลาด แต่ถ้าถามว่าหลังจากนั้นบริษัทฯ จะมีการเติบโตหรือไม่ ตรงส่วนนี้ทางบริษัทฯ ก็มีแพลนในการเติบโตของธุรกิจอยู่แล้ว ดังนั้นเลยมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและทางฝั่งนักลงทุนด้วย

Back to top button