JMART ปั้นแบรนด์ “เจดี” รุก “เครื่องใช้ไฟฟ้า-ไอที” ตั้ง 8 ดีลเลอร์ ปูทาง JFIN ชำระสินค้า

JMART ปั้นแบรนด์ “เจ ดี กรุ๊ป” รุกหนัก “เครื่องใช้ไฟฟ้า-ไอที” ตั้ง 8 ดีลเลอร์ เริ่ม 14 สาขา หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1 ปี 67 ปูทาง JFIN ชำระสินค้า


นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า ทาง JMART ได้ประกาศตั้ง บริษัท เจ ดี กรุ๊ป จำกัด (Jaydee Group) ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการดีลเลอร์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยปัจจุบันมี 14 สาขา และวางเป้าขยายสาขา 100 สาขาในปี 2565 เพื่อมาร่วมเสริมอีโคซิสเต็มของกลุ่ม เจมาร์ทให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ปลุกตลาดค้าปลีกตามหัวเมืองต่างจังหวัด ผ่านฐานลูกค้าของดีลเลอร์ทั้งในรูปแบบเงินสดและเงินผ่อนพร้อมจัดเต็มด้านสินเชื่อ KBJ และ SINGER ประกัน และโลจิสติกส์ร่วมกันกับ Kerry

สำหรับบริษัท เจ ดี กรุ๊ป จำกัด เริ่มแรกทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท  และคาดว่าในปีถัดไปข้างหน้าอาจมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท โดยทางกลุ่ม JMART เข้าถือหุ้น 24.90%

โดย JMART มองเห็นศักยภาพการลงทุนครั้งนี้ ด้วยการนำเทคโนโลยีและระบบมาปฏิวัติอุตสาหกรรมค้าปลีกเข้าสู่รูปแบบดิจิทัล ตามวิสัยทัศน์ Technology Investment Holding Company รวมทั้งปรับกลยุทธ์ทำการตลาดแบบ Online-to-Offline (O2O) เพื่อผลักดันให้ค้าปลีกไทยหนีการถูกดิสรัปชันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ และเสริมสร้างความเข็มแข็งของผู้ค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าตามหัวเมืองทั่วประเทศให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี และเปิดโอกาสสร้างพันธมิตรทางการค้าเพื่อซินเนอร์ยี่ร่วมกัน

อาทิ การนำผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือผลิตภัณฑ์ Solar Rooftop จาก JV Gunkul และสินค้าเทคโนโลยีของเจมาร์ท เข้ามาจัดจำหน่ายในร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เพิ่มเติม ทำให้การกระจายสินค้าครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกช่องทางมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยบริการด้านการเงินครบวงจร ทั้งสินเชื่อของ KBJ ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้, สินค้าและสินเชื่อเงินผ่อนของ SINGER

อีกทั้ง การนำผลิตภัณฑ์ด้านประกันในกลุ่มเจมาร์ทเข้ามาต่อยอดการเติบโต นอกจากนี้ หากมีพันธมิตรที่ ร่วมลงทุนสาขาไหนที่พร้อมที่จะดาเนินงานทางด้านธุรกิจตามหนี้ ก็สามารถเป็น Franchise หนึ่งของกลุ่มธุรกิจเจมาร์ทได้ด้วย สนับสนุนโอกาสการเติบโตและการสร้างผลการดาเนินงานแบบ Exponential Growth

ด้านนายยงยุทธ เตชะเศรษฐธนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ ดี กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีดีลเลอร์เครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 8 รายที่หารือในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตร โดยมีรายนามดังนี้

1.บริษัท กู๊ดดีล คอร์ปอเรชั่น จากัด จังหวัด กรุงเทพมหานคร

2.บริษัท มัลติ โปร เซ็นเตอร์ จากัด จังหวัด กรุงเทพมหานคร

3.บริษัท พูนสิน จากัด จังหวัด กาญจนบุรี

4.บริษัท เดอะเกรท อิเลคทริค ซิตี้ จากัด จังหวัด สุพรรณบุรี

5.บริษัท เดอะเบสท์วัน ระยอง จากัด จังหวัด ระยอง

6.บริษัท นคร ดี ซี จากัด จังหวัด นครศรีธรรมราช

7.บริษัท สงวนพาณิชย์ เอวี จากัด จังหวัด สงขลา

8.หจก. สุรินทร์ จังหวัดนราธิวาส จังหวัด นราธิวาส

ทั้งนี้ด้วยบริษัทฯเล็งเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ผ่านมามีค่อนข้างมาก สิ่งที่ดีลเลอร์มีคือ ฐานลูกค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่เราจะต้องขยาย Ecosystem ให้กับพันธมิตรดีลเลอร์ ให้เติบโตกว่านี้ให้ได้ เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งค้าปลีกอื่นๆ โดยตลาดที่ JayDee Group เน้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าตามหัวเมืองในต่างจังหวัด ซึ่งจะยิ่งไปเสริมโมเดลธุรกิจของ Singer ต่อยอดให้เติบโตไปพร้อมกัน ทั้งนี้สาหรับจังหวัดอื่นๆที่เล็งเห็นว่ามีศักยภาพด้านการขยายตลาด ทาง Jay Dee Group ก็จะพิจารณาการเปิดสาขาเองเช่นกัน

บริษัท เจ ดี กรุ๊ป จากัด มีโอกาสในการเติบโต จากธุรกิจเดิมของพันธมิตรร่วมทุน ที่มีฐานลูกค้าในพื้นที่การนาเอาระบบ และเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้จะยิ่งสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้การร่วมทุนครั้งนี้ เจมาร์ท พร้อมจะเป็นพันธมิตรร่วมทุนด้วยสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 24.99

อีกทั้งนายยงยุทธ กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2567 โดยตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิในช่วง 3 ปี (ปี 2565-2567) ที่ 50 ล้านบาท 100 ล้านบาท และ 300 ล้านบาท ตามลำดับ และตั้งเป้าหมายรายได้ 1,000 ล้านบาท 1,800 ล้านบาท และ 3,500 ล้านบาท ตามลำดับ

Back to top button