WICE มั่นใจรายได้ปีนี้นิวไฮ 9 พันลบ. รับดีมานด์ขนส่งพุ่ง-ขยายบริการครบวงจร

WICE มั่นใจรายได้ปีนี้นิวไฮ 9 พันลบ. รับดีมานด์ขนส่งพุ่ง-ขยายโครงข่ายการให้บริการครอบคลุมทุกเส้นทาง เล็งเปิดคลังสินค้าใหม่พื้นที่รวม 20,000 ตร.ม. คาดให้บริการและทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/65


นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ 3 มี.ค.2565 ว่า ทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 1/2565 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากปริมาณความต้องการขนส่งเพิ่ม โดยบริการขนส่งข้ามแดน (Cross Border Service) มีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ เริ่มดำเนินการขนส่งทางรถไฟ (Road-Rail Service) เชื่อมต่อเส้นทางการขนส่งทางรถบรรทุกไปยังรถไฟประเทศลาว – จีน ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ปัจจุบันที่เป็นช่วงเริ่มแรกมีปริมาณการขนส่งแล้ว 100 กว่าเที่ยว และเพิ่มจำนวนเที่ยวการขนส่งมากขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2565 เป็นต้นไป โดยทั้งปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการบริการดังกล่าวอยู่ที่ 3,000 เที่ยว

ด้านบริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านซัพพลายเชนโซลูชั่นส์แบบครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากธุรกิจคลังสินค้าแห่งใหม่ที่เปิดให้บริการแล้วเมื่อปี 2564 สำหรับไตรมาสนี้บริษัทฯ ได้รับการอนุมัติเพิ่มทุนจำนวน 66.50 ล้านบาท เพื่อเตรียมเปิดให้บริการคลังสินค้าแห่งที่ 5 ถนนบางนา-ตราด จ.กรุงเทพฯ และแห่งที่ 6 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พื้นที่รวม 20,000 ตารางเมตร โดยขณะนี้อยู่ในช่วงเริ่มเจรจากับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการและทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/2565

ส่วนบริการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) คาดว่าจะมีการเติบโตดีต่อเนื่องจากปริมาณความต้องการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ด้วยการขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มลูกค้าตลาดหลัก โดยบริษัทฯ มีแผนการให้บริการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบร่วมกับบริษัทในเครือทั้ง 9 สาขาเพื่อขยายตลาดไปยังสหรัฐฯ อีกทั้งตั้งเป้าปริมาณการขนส่งจำนวน 10,000 TEUS ในปี 2565 จากปีก่อนที่มีจำนวน 7,490 TEUS ขณะเดียวกันค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นปัจจัยหนุน ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงส่งผลระยะยาว อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงมีการประเมินและบริหารจัดการตามกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์อยู่เสมอ

นอกจากนี้บริการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากสถานการณ์การบินเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งบริษัทฯ มีการบริหารต้นทุนและการจัดการเที่ยวบินขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการขนส่งสินค้าประเภทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก

บริษัทฯ มีความมั่นใจในแผนกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ โดยมุ่งเน้นการทำกำไรในทุกธุรกิจ และ เสริมโครงข่ายการให้บริการครอบคลุมทุกเส้นทาง ด้วยความร่วมมือจากบริษัทในเครือและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเนื่องให้กับลูกค้าในฐานะการเป็นผู้นำโลจิสติกส์ระดับเอเชีย ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ มีปริมาณงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ตามเป้าที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ในปี 2565” นายชูเดช กล่าว

อนึ่งสืบเนื่องมาจากปี 2564 บริษัทฯ มีแผนนำบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (ETL) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในปี 2565 ซึ่งบริษัทฯ มีการดำเนินงานโดยมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว และมีการดำเนินงานในบางส่วนเรียบร้อยแล้ว เช่น การปรับโครงสร้างผู้ถือ การปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ทางตลท.และก.ล.ต.กำหนด ซึ่งทุกอย่างยังคงอยู่ในแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ก็คาดว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเมษายน เพื่อขออนุมัติให้ ETL สปินออฟตามแผนงาน และคาดจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงกลางปีนี้ ส่วนการเทรดดิ้ง IPO น่าจะเป็นช่วงไตรมาส 4/2565

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ สามารถสร้างสถิติใหม่เป็น 8 ครั้งติดต่อกัน โดยมีรายได้รวม 2,392.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,399.16 ล้านบาท จำนวน 993.20 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 70.99% และ มีกำไรสุทธิ 180.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.40 ล้านบาท จำนวน 120.96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 203.65% และผลประกอบการ 2564 มีรายได้รวม 7,670.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,005.57 ล้านบาท จำนวน 3,665.17 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 91.50% และ มีกำไรสุทธิ 535.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 201.08 ล้านบาท จำนวน 334.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 166.32%

Back to top button