BAY วาง 3 กลยุทธ์สู่โลกการเงินยุคใหม่ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 3.12 แสนลบ.

BAY เตรียมปรับ 3 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรให้พร้อมก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ พร้อมตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรในปี 65 อยู่ที่ 3.12 แสนล้านบาท


นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY กล่าวว่า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรในปี 2565 อยู่ที่ 3.12 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 2.85 แสนล้านบาท

อีกทั้งตั้งเป้ายอดสินเชื่อใหม่ 8.46 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนทำได้ 7.65 หมื่นล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.49 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1.39 แสนล้านบาท โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เตรียมปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรให้พร้อมก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่โดยได้วางกลยุทธ์หลัก 3 อย่างในปี 2565

1.การใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลในการทำธุรกิจสำหรับอนาคต โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศน์ดิจิทัล ผ่านการขยายแพลตฟอร์มข้อมูล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆผ่านช่องทางดิจิทัล ทั้งการพัฒนาบัตรเครดิตดิจิทัลใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งจะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ รวมถึงบริการใหม่ๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่มให้บริการในครึ่งปีหลังของปี 2565

พร้อมกับการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ายิ่งขึ้น โดยพัฒนาบริการใหม่ เช่น การขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนในการสมัครบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์, การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอป UCHOOSE เช่น บริการสมัครบัตรใหม่ผ่านแอป, บริการ UCASH บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอปโดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร, บริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL  Buy Now Pay Later) ผ่านแอป ซึ่งสามารถขอทำรายการผ่อนชำระสินค้าด้วยตนเอง, รวมถึง การนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น

2.การสร้างความเติบโตโดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี และพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการทำงานแบบ Krungsri One Retail ซึ่งจะผสานความร่วมมือระหว่างหลายกลุ่มธุรกิจในเครือกรุงศรี โดยมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูล ผลิตภัณฑ์ และช่องทางการขาย

โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น, ควบคู่กับการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในธุรกิจ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า พร้อมกับการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อแสวงหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เช่น นำเสนอบริการ Call Center as a Service, Collection as a Service เพื่อให้บริการกับพันธมิตร เป็นต้น รวมทั้งขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี ในภูมิภาค

3.การพัฒนาศักยภาพองค์กร โดยเฉพาะการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกการเงินแห่งอนาคต

“กลยุทธ์ทั้งสามประการนี้เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจในโลกยุคใหม่ รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงินไว้ได้อย่างต่อเนื่อง” นางสาวณญาณี กล่าว

สำหรับในปี 2565 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอลงบ้าง จากการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รวมทั้งสภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการพยุงกำลังซื้อประชาชน และกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ส่วนภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อในปีนี้คาดว่าการแข่งขันจะสูงขึ้น รวมไปถึงจะเห็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินกับธุรกิจต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆมากขึ้น และผู้ประกอบการมีแนวโน้มจะนำเอาระบบดิจิทัลและข้อมูล มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตในรูปแบบดิจิทัล หรือการขอสินเชื่อแบบดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปิดรับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น

ส่วนของคุณภาพสินเชื่อในพอร์ตสินของของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ยังคงเน้นการรักษาคุณภาพของพอร์ตให้ดีต่อเนื่องในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ โดยที่จะควบคุมให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบัตรเครดิตอยู่ที่ระดับ 1.1% และสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระอยู่ที่ระดับ 2.8% ซึ่งถือว่ายังเป็นระดับที่ต่ำกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรม

Back to top button