ก.ล.ต.เล็งเฮียริ่งเกณฑ์คุม “Utility Token” พร้อมใช้เม.ย.นี้ หวังคุ้มครองผู้ซื้อขาย

ก.ล.ต.เล็งเฮียริ่งเกณฑ์คุม Utility Token พร้อมใช้ภายในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อคุ้มครองผู้ซื้อขาย ผู้ลงทุนให้มีข้อมูลเพียงพอ โปร่งใส รวมทั้งมีกลไกกำกับดูแลการซื้อขายในตลาดรองที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


นางสาวจอมขวัญ คงสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้สนใจ และประชาชนเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ในลักษณะพร้อมใช้ หรือ utility token ซึ่งพร้อมใช้ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อคุ้มครองผู้ซื้อขาย ผู้ลงทุนให้มีข้อมูลเพียงพอ โปร่งใส รวมทั้งมีกลไกกำกับดูแลการซื้อขายในตลาดรองที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับแนวทางการกำกับดูแลดังกล่าว เบื้องต้น ก.ล.ต.มีแนวคิดที่จะกำกับดูแลในลักษณะที่กำหนดให้ผู้ออกเสนอขาย (issuer) ที่ต้องการจะนำ “utility token พร้อมใช้ไปจดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ต้องขออนุญาตเสนอขายกับ ก.ล.ต. และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด กำหนดให้ศูนย์ซื้อขายฯ มีการเปิดเผยข้อมูลและกำกับดูแลความเสี่ยงในการซื้อขายเพิ่มขึ้น เป็นต้น

รวมถึงโทเคนดิจิทัลดังกล่าวต้องไม่เข้าข่ายเป็นการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) เพื่อให้ผู้ซื้อขายมีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจในการเข้าไปซื้อขาย และไม่ถูกเอาเปรียบ

ทั้งนี้ หากผู้ออกเสนอขาย utility token พร้อมใช้ ไม่ได้มาขออนุญาตเสนอขายกับ ก.ล.ต. และไปจดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ (ตลาดรอง) ทางสำนักงาน ก.ล.ต.จะไม่สามารถไปกำกับดูแลในส่วนนี้ได้ แต่ทางศูนย์ซื้อขายฯ สามารถ Delete เหรียญทิ้งได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดโทษกับผู้ซื้อขาย ทำให้ ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะต้องเข้ามากำกับดูแลตั้งแต่ออกเหรียญ การทยอยออกเหรียญ ตลอดจนการปรับปรุง Whitepaper ให้ทันต่อเหตุการณ์ และไม่ปกปิด รวมถึงไม่เป็นเท็จ ซึ่งยืนยันว่าสิ่งที่ทาง ก.ล.ต.กำลังเดินไปทางนี้ อยากให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ซื้อขายมากที่สุด” น.ส.จอมขวัญ กล่าว

โดยยืนยันว่าสำนักงาน ก.ล.ต.ไม่ได้ปิดกั้นนวัตกรรม โดย utility token พร้อมใช้ ทุกประเภทสามารถเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ได้ แต่บางกรณีที่เมื่อเข้ามาซื้อขายแล้วอาจจะมีลักษณะเข้ามาเก็งกำไร ทำให้หลักคิดของสำนักงาน ก.ล.ต.คือการเปิดเผยข้อมูลเป็นตัวตอบโจทย์ รวมถึงในทางกฎหมาย การเปิดเผยข้อมูลที่ดีที่สุดคือ ต้องมาขออนุญาตเสนอขายกับก.ล.ต.

นอกจากนี้ หากมีการออกเสนอขายเหรียญฯ โดยไม่ได้นำไปจดทะเบียนซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ และมีการขายเหรียญอย่างตรงไปตรงมาชัดเจน สำนักงานก.ล.ต.จะไม่มีการกำกับดูแล แต่อาจจะมีเกณฑ์ที่ออกมากำหนดเงื่อนไขเหรียญที่ไม่ได้ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายฯ ซึ่งจะเปิดรับฟังความคิดเห็นในเดือนเมษายนเช่นกัน

สำหรับการขออนุญาตเสนอขายจาก ก.ล.ต.จะแบ่งลักษณะคำขออนุญาตออกเป็น 2 แบบ ได้แก่

1.Fast track คือ ได้รับพิจารณาเร็วกว่าปกติ ซึ่งก็จะช่วยลดต้นทุนในการออกเหรียญให้ถูกลง โดยเหรียญที่เข้าเกณฑ์จะต้องเป็นเหรียญที่ไม่มีความซับซ้อน เข้าใจง่าย มีสินค้ารองรับอย่างชัดเจน มีมูลค่าการออกที่เหมาะสมและเป็นเหรียญที่นำมาใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภค

2.Normal track คือ การยื่นขอแบบรอเวลาตามปกติ ซึ่งก็จะใช้ต้นทุนในการออกหลักทรัพย์ที่แพงกว่า Fast track โดยเหรียญที่เข้าเกณฑ์จะมีลักษณะที่ตรงข้ามกับ Fast track หรือเรียกว่ามีความซับซ้อนมากกว่าก็จะใช้เวลาในการพิจารณาตรวจสอบนานขึ้น

ขณะที่การขออนุญาตเสนอขายเหรียญจะต้องผ่านการกลั่นกรองจากผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) เพื่อยื่นไฟลิ่ง (Filling) ต่อสำนักงานก.ล.ต. ซึ่งจะคล้ายกับการที่มายื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเปรียบ ICO Portal เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) เพื่อทำหน้าที่กลั่นกรอง ตรวจสอบ ก่อนมาถึงสำนักงาน ก.ล.ต.ว่าไม่เอาเปรียบผู้ซื้อขาย และมีการเปิดเผยข้อมูลชัดเจน รวมถึงยังมีเกณฑ์ที่กำกับไปถึงศูนย์ซื้อขายฯ ด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง  Whitepaper หากมีการกระทบกับสิทธิ์ ก็ต้องแจ้งให้กับทางผู้ซื้อขายทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน เป็นต้น

ด้านผู้เสนอขาย utility token พร้อมใช้ ที่มีความกังวลว่าหากต้องผ่าน ICO Portal จะเป็นการเพิ่มต้นทุนในการออกเหรียญ เนื่องจากอาจใช้ระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างนาน รวมถึงความพร้อมของ ก.ล.ต.ต่อการตรวจสอบไฟลิ่ง เนื่องจากหากมีความต้องการเสนอขายเหรียญจำนวนมากอาจทำให้การทำงานของก.ล.ต.ล่าช้าออกไป จนไม่ทันต่อสถานการณ์ โดยในส่วนนี้ก็ได้เสนอให้สำนักงานก.ล.ต.ขยายงานไปให้กับศูนย์ซื้อขายฯ เพื่อลดภาระงานดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม กรณีต้นทุนที่จะเกิดกับผู้ออกและเสนขายเหรียญนั้น ทางสำนักงานก.ล.ต.จะนำเรื่องไปหารือกับทาง ICO Portal อีกครั้งหนึ่งว่าจะสามารถลดราคาสำหรับการออกเหรียญแบบง่ายได้หรือไม่ อีกทั้งจำนวน ICO Portal ในปัจจุบันก็มีค่อนข้างจำกัด ซึ่งก็เป็นโจทย์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต.พิจารณาต่อไป อีกทั้งยอมรับว่าหากมีผู้ที่ต้องการออกและเสนอขายเหรียญจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้การทำงานของสำนักงานก.ล.ต.ล่าช้าไปจริง ก็มองการขยายงานในส่วนการออกเหรียญแบบง่าย ไม่ซับซ้อน ไปให้ทางศูนย์ซื้อขายฯ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติแทน เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ปัจจุบัน ICO Portal ที่ได้รับใบอนุญาตจากก.ล.ต.มีจำนวนทั้งสิ้น 7 ราย และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติใบอนุญาตเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ราย” นางสาวจอมขวัญ กล่าว

Back to top button