APCO ชู “เซลล์ทีพิฆาต” ขยายกลุ่ม “HIV-มะเร็ง” จ่อตั้งธุรกิจอาหารสัตว์ ดันผลงานปีนี้โต 50%

APCO ชู "เซลล์ทีพิฆาต" เดินหน้าขยายฐานกลุ่มผลิตภัณฑ์ HIV มะเร็ง ผ่านช่องทางออนไลน์ จัดตั้งธุรกิจอาหารเสริมสัตว์เลี้ยง ตั้งเป้ายอดขาย 10 ลบ. เตรียมส่งออกไต้หวันและอเมริกา ผลักดันผลงานปี 65 โตไม่น้อยกว่า 50%


ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการกระตุ้นเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ด้วยสารสกัดจากพืชกินได้ เป็นหลักการในการพัฒนาสูตรภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ให้ตรวจไม่พบเชื้อเป็นครั้งแรกของโลกและสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งทุกส่วนของร่างกาย จัดการปัญหามากกว่า 2,000 ราย

โดยล่าสุดสามารถใช้เทคโนโลยีในการสกัดปรับปรุงสูตรภูมิคุ้มกันบำบัดให้มีเซลล์ทีพิฆาตเพิ่มขึ้นในระดับที่เหมาะในการใช้เป็นภูมิคุ้มกันบำบัดโรคแต่ละชนิด APCO จึงได้มุ่งเน้นการใช้เซลล์ทีพิฆาตในการขยายธุรกิจ ดังต่อไปนี้

1.จัดตั้ง บริษัท KILLER T CELL CO., LTD. เพื่อให้ผู้ที่สนใจนำนวัตกรรมนี้ไปใช้ใน Wellness Center จัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อใช้ในการป้องกันและรักษาการติดเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และอาการมะเร็งทุกระยะ

2.จัดตั้งศูนย์ Killer T Cell Therapy for HIV ร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ในประเทศไทย บริการให้ผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกเข้ามารับบริการในประเทศไทย หรือ ใช้ระบบสื่อสารออนไลน์ Remote Monitoring ในลักษณะเดียวกับ Telemedicine ให้บริการกับผู้ที่ไม่สามารถเดินทางเข้ามารับบริการในประเทศไทย ขณะนี้มีการลงนามใน MOU ร่วมกับ บริษัท Eco Green Concept ให้นำผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เข้ารับการรักษาในศูนย์ ประมาณเดือนละ 200 คน โดยจะเริ่มในไตรมาส 2/2565

3.จัดตั้ง บริษัท KILLER T CELL FOR PETS CO., LTD. ร่วมกับสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อใช้นวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัดด้วยเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) รักษาสัตว์เลี้ยงที่เป็นมะเร็ง ติดเชื้อรา แบคทีเรีย เอดส์และไวรัสอื่นๆ ที่ยังไม่มียารักษา จัดจำหน่ายให้แพร่หลายทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายให้มีผลประกอบการในประเทศไทย 10 ล้านบาทในปี 2565 และเตรียมการจำหน่ายไปประเทศไต้หวันและอเมริกาในปลายปี 2565 หรือต้นปี 2566

สำหรับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้ว บริษัทวางแผนขยายตลาดด้วยความสำเร็จจากการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด HIV ซึ่งประกาศไปแล้วว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโลก ในการทำให้ผู้ติดเชื้อตรวจไม่พบเชื้อโดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และมีสุขภาพแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้มียอดจำหน่ายจากนวัตกรรมนี้จะเพิ่มขึ้น 50% จากปีที่แล้ว

ส่วนที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง บริษัทมุ่งเน้นทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร รวมทั้งการเปิดศูนย์ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยทางออนไลน์ โดยคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, นักวิทยาศาสตร์ และเภสัชกร ในทุกๆ สัปดาห์คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายจากนวัตกรรมนี้ได้ต่อไป

ขณะเดียวกันนวัตกรรมสูตรวัฒนชีวา ที่ทำให้เกิดการย้อนวัย ชะลอวัย และอายุยืนและมีสุขภาพที่ดี ซึ่งบริษัทเปิดโครงการทูตสุขภาพแอปโก้ (AHA : APCO Health Ambassador) แนะนำนวัตกรรมให้ผู้ที่รักและปรารถนาดี พร้อมมอบสมนาคุณประมาณ 2,000,000 บาท ให้สำหรับทูตสุขภาพที่แนะนำผู้บริโภคได้ครบ 1,000 ราย วิธีการนี้จะทำให้มีผู้บริโภคต่อเนื่องครบ 20,000 รายได้อย่างรวดเร็ว หากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 3 เท่า

ส่วนการดำเนินการธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทยังคงติดตามและสนับสนุนพันธมิตรให้เพิ่มยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน และเริ่มสนับสนุนพันธมิตรที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศอินโดนีเซียให้สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกันต่อไปให้รวดเร็วขึ้นเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงและเอื้อต่อการขนส่งสินค้าให้สะดวกยิ่งขึ้น

ทั้งนี้หากการดำเนินงานดังกล่าว ได้รับผลสำเร็จเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าผลประกอบการของบริษัทปี 2565 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 50% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%

Back to top button