“สหรัฐ” จับตา “โควิดพันธุ์ย่อยใหม่” หลังคลายกฎสวมหน้ากากอนามัย

“ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ” เฝ้าระวังโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยใหม่ หลังเริ่มยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในประเทศ


สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอังคาร (19 เม.ย.) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ระบุว่า เผยว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญการอุบัติของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ย่อยใหม่ ขณะเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.2 ยังคงแพร่ระบาดเป็นหลักในประเทศ

โดยเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยใหม่ “บีเอ.2.12.1” (BA.2.12.1) ครองสัดส่วนราว 1 ใน 5 ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ โดยอัตราการติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยนี้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.4 ในสัปดาห์ก่อน และร้อยละ 6.9 ในสองสัปดาห์ก่อน

ทั้งนี้ แม้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ หรือราวร้อยละ 75 ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยบีเอ.2 ซึ่งถือเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม แต่สายพันธุ์ย่อยบีเอ.2.12.1 ร่วมกับอีกหนึ่งสายพันธุ์ย่อยอย่างบีเอ.2.12 (BA.2.12) มีส่วนทำให้ยอดผู้ป่วยในรัฐนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อไม่นานนี้

ด้านสำนักสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กเผยว่าเชื้อไวรัสฯ ทั้งสองสายพันธุ์ย่อยข้างต้น จัดเป็นสายพันธุ์ย่อยของบีเอ.2 ซึ่งปัจจุบันครองสัดส่วนร้อยละ 80.6 ของการติดเชื้อในนิวยอร์ก โดยคาดว่าทั้งสองสายพันธุ์ย่อยนี้จะแพร่ระบาดมากกว่าสายพันธุ์บีเอ.2 ราวร้อยละ 23-27

โดยปัจจุบันสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ยราว 35,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากสัปดาห์ก่อน และร้อยละ 42 จากสองสัปดาห์ก่อน ขณะยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรายใหม่อยู่ที่ราว 370 รายต่อวัน และยอดผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลรายใหม่อยู่ที่ราว 1,400 รายต่อวัน

อย่างไรก็ดี หลังจากศูนย์ฯ ขยายข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบิน รถไฟ รถประจำทาง และระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้ไม่ถึงสัปดาห์ ผู้พิพากษาศาลกลางในรัฐฟลอริดากลับยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยเมื่อวันจันทร์ (18 เม.ย.) นำไปสู่กรณีหลายสายการบินยกเลิกกฎสวมหน้ากากอนามัยบนเที่ยวบินภายในประเทศ

ด้าน ซัสเกีย โปเปสคู นักระบาดวิทยาด้านโรคติดเชื้อและผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ว่าการยกเลิกข้อบังคับสวมหน้ากากอนามัยในตอนนี้เป็นเรื่องน่ากังวลมาก เพราะจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนและอาจนำไปสู่สถานการณ์อย่างในสหราชอาณาจักร ซึ่งยกเลิกข้อจำกัดคุมโรคระบาดและพบผู้ป่วยใหม่พุ่งพรวด

ที่มา : ซินหัว

Back to top button