จับตา! CHAYO ร่วมทุน KBANK ไตรมาส 3 ลุยบริหารหนี้ 1 หมื่นล. ดันรายได้ปีนี้โต 40%

CHAYO จับมือ KBANK ตั้งบริษัทร่วมทุนเอเอ็มซี (JVAMC) ถือหุ้นฝ่ายละ 50% เผยทดลองติดตามหนี้ให้ก่อน 3 เดือนสิ้นสุด มิ.ย.นี้ราว 1,000 ลบ. ก่อนเซ็นสัญญาในไตรมาส 3/65 ประเดิมก้อนหนี้ 1 หมื่นล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 40%


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิง แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เปิดเผยว่า บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO จะมีการลงนามในสัญญาร่วมทุนตั้งบริษัทเอเอ็มซี หรือ JVAMC กับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KBANK เพื่อร่วมกันบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยจะมีการถือหุ้นฝ่ายละ 50% เท่ากัน

“การลงนามในสัญญาระหว่างชโย กรุ๊ป กับแบงก์กสิกรไทย จะอยู่ภายในไตรมาส 3/2565 โดยระหว่างนี้ อยู่ในขั้นการทดลองด้วยการติดตามหนี้ที่ให้มาเป็นก้อน เช่น 300 – 400 ล้านบาท และดูว่าทางเขาหรือชโย กรุ๊ป มีความสามารถการติดตามหนี้ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการทดลองการติดตามหนี้ จะสิ้นสุดในสิ้นเดือนมิ.ย.2565” แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หลังการดูความสามารถในการติดตามหนี้แล้วเสร็จ ที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือนดังกล่าว และสิ้นสุดในสิ้นไตรมาส 2 นี้ ต่อจากนั้นจะมีการลงนามในสัญญากันระหว่างทางแบงก์กสิกรไทยกับชโย กรุ๊ป ภายในไตรมาส 3/2565 และเบื้องต้นจะมีหนี้ด้อยคุณภาพให้กับทางชโย กรุ๊ปบริหารประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

เบื้องต้น CHAYO ตั้งเป้าปี 2565 บริษัทจะโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน โดยคาดว่ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 40%

แหล่งข่าวกล่าวว่า ทางแบงก์กสิกรไทย มีหนี้เสียที่มีมูลค่าเป็นหลักแสนล้านบาท และแม้ว่าก่อนหน้านี้จะร่วมทุนกับทางบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ไปแล้ว แต่ยังมีหนี้เสียเหลืออยู่อีก จึงต้องมีการเจรจาร่วมทุนกับบริษัทด้านเอเอ็มซีรายอื่นๆ อีกรวมถึงกับบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ด้วย

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึง ดีลร่วมทุน JVAMC ระหว่าง CHAYO กับ KBANK ว่า ปัจจุบันมูลค่าพอร์ตการบริหารหนี้ด้อยคุณภาพของชโย กรุ๊ป มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท หากมีหนี้เสียให้เข้ามาบริหารอีก 1 หมื่นล้านบาท จะคิดเป็น 15% ของพอร์ตหนี้ปัจจุบันของบริษัท ซึ่งถือว่าค่อนข้างมาก และมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการทั้งด้านอัพไซด์ต่อประมาณกำไรสุทธิ และราคาเป้าหมายในอนาคตอันใกล้

สำหรับรายงานข่าวดังกล่าว สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทที่ นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAYO ได้เคยให้ข้อมูลกับสาธารณะว่า ทิศทางธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ได้เข้าเจรจาซื้อพอร์ตหนี้จากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยมีงบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะซื้อหนี้มาบริหารได้ประมาณ 10,000 – 12,000 ล้านบาท (ทั้งนี้ไม่รวม JV ที่จะจัดตั้งกับสถานบันการเงินตามนโยบายของ ธปท.)

โดยมั่นใจว่า ปี 2565 จะเป็นปีแห่งโอกาสของ CHAYO ในการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร รวมถึงการจัดตั้ง JV ร่วมกับสถาบันการเงิน โดยบริษัทคาดว่าหนี้เสียยังคงอยู่ในปริมาณที่สูง และสถาบันการเงินจะทยอยขายหนี้เสียมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯมีความพร้อมที่จะรุกธุรกิจซื้อหนี้เสียเข้ามาบริหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่ CHAYO มีความเชี่ยวชาญ สามารถสร้างการเติบโตทั้งในแง่ของยอดขายและกำไร และในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกธุรกิจปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่องโดยตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อในปี 2565 ไว้ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดการณ์กำไรสุทธิของ CHAYO งวดไตรมาส 1/2565 จะอยู่ที่ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่ม 5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนมาจากยอดจัดเก็บหนี้ปรับตัวดีขึ้น ทำให้รายได้จากการบริหารหนี้เติบโต และรายได้จากการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นตามฐานสินเชื่อที่มีอัตราการเติบโตสูง

“ในไตรมาสแรกนี้ทาง CHAYO อาจจะมีการบันทึกกำไรพิเศษประมาณ 24 ล้านบาท จากการขาย NPA บางแปลงเข้ามาด้วย” ทรีนีตี้ ระบุ

บล.ทรีนีตี้ ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ CHAYO ได้รายงานการขายหลักประกันของ NPL ในจังหวัดพังงาผ่านกรมยบังคับคดี มูลค่า 900.8 ล้านบาท และจะมีกำไรจากการขายประมาณ 300 ล้านบาทบันทึกเข้ามาในช่วงไตรมาส 2-3/2565 จึงปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นอีก 89% มาอยู่ที่ 540 ล้านบยาท หรือเพิ่มขึ้น 147% จากปีก่อน พร้อมให้ราคาเป้าหมายใหม่เป็น 17.70 บาท อิงกับ PBV 4.25 เท่า คงแนะนำ “ซื้อ”

Back to top button