จับจังหวะสอย IVL ช่วงอ่อนตัว โบรกชูเป้า 70 บ. ชี้กำไร Q1 ออลไทม์ไฮ

FSSIA ชี้การที่นักลงทุนแพนิกขายหุ้น IVL จนราคาปรับตัวลดลงนั้นเป็นโอกาสในการ “เข้าซื้อสะสม” ให้ราคาเป้าหมาย 70 บ. พร้อมคาด IVL จะรายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 สูงเป็นประวัติการณ์ และประเด็นรัสเซียหยุดส่งก๊าชไปยังโปแลนด์ และบัลแกเรีย นั้นกระทบน้อยมาก


นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL โดยมองว่าการที่นักลงทุนแพนิก แห่ขายหุ้นถือเป็นโอกาสดีในการ “เข้าสะสม”

โดยราคาหุ้น IVL ปรับตัวลดลง 5% เมื่อวานนี้เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่รัสเซียหยุดส่งก๊าชไปยังโปแลนด์ และบัลแกเรีย อาจสร้างผลกระทบต่อบริษัทการดำเนินธุรกิจของ IVL

อย่างไรก็ตาม FSSIA เชื่อว่า IVL จะได้รับผลกระทบจำกัด หรือน้อยกว่า 1% และมองว่าช่วงที่ราคาหุ้น IVL ปรับตัวลดลงเป็นโอกาสดีให้นักลงทุนเข้าสะสม นอกจากนี้ FSSIA ยังคาดการณ์ว่า IVL จะมีผลประกอบการสูงเป็นประวัติการณ์ใหม่ในไตรมาสที่ 1 และปี 2565

พร้อมกันนี้ FSSIA คาด IVL จะได้รับผลกระทบแบบจำกัดจากกรณีที่รัสเซียหยุดส่งก๊าชไปยังโปแลนด์ โดย IVL มีกำไรกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA จากยุโรปเพียง 15% และ 1.5% จากโปแลนด์ และไม่มีจากรายได้จากบัลแกเรียหลังจากการเข้าซื้อกิจการ Oxiteno ในวันที่ 22 เมษายน

โดย ณ ไตรมาสที่ 1/2565 โปแลนด์นำเข้าก๊าชจาก Gazprom ผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติในรัสเซีย มากถึง 53% ของก๊าซธรรมชาติที่นำเข้ามาในประเทศทั้งหมด แต่โปแลนด์ยืนยันว่าประเทศยังมีก๊าชเพียงพอในการบริโภค เนื่องจากสามารถนำเข้าก๊าชธรรมชาติจากแหล่งอื่นมาทดแทนได้ ซึ่งรวมถึงการนำเข้า LNG การเชื่อมต่อท่อส่งก๊าซใหม่กับลิทัวเนีย และท่อส่งก๊าซใหม่จากนอร์เวย์

นอกจาก downside risk จากฝั่งยุโรป FSSIA เชื่อว่า IVL จะรายการผลประกอบการที่สูงเป็นประวัติการณ์ใหม่ในปีนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 จะอยู่ที่ 9.1 พันล้านบาท ขณะที่ EBITDA จะเพิ่มขึ้นจาก 1.8 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2564 เป็น มากกว่า 2 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2565-2566 ซึ่งจะได้แรงหนุนจาก EBITDA ของบริษัทสตาร์ทอัพ อีเทน แครกเกอร์ (ethane cracker) และการเข้าซื้อกิจการ Oxiteno’s IOD เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ FSSIA ยังเชื่ออีกว่า downside risk จากฝั่งยุโรป ต่อ IVL จะมีจำกัด และมองเห็นศักยภาพของบริษัทในในการสร้างการเติบโตของกำไรในปี 2565 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นของ PET-PTA ในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป และอัตรากำไรที่แข็งแกร่งของสินค้า IOD และไฟเบอร์

โดยฐานที่แข็งแกร่งจะช่วยจำกัด downside risk ในระยะสั้น FSSIA ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น IVL และให้ราคาเป้าหมายที่ 70 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2565 ที่ระดับ 9.4 เท่า

Back to top button