GUNKUL ส่งซิก Q2 ฟอร์มสวย วินด์ฟาร์มดี- งาน EPC แบ็คล็อก 4.5 พันลบ. ลุยกัญชงเต็มสูบ

GUNKUL ส่งซิกไตรมาส 2/65 ฟอร์มยังดีต่อเนื่องรับรู้รายได้พลังงานลม-EPC ตุนแบ็คล็อก 4.5 พันลบ. เดินหน้าธุรกิจกัญชงเต็มสูบเล็งขยายตลาดต่างประเทศผลักดันผลงานโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20%


ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทย่อยของ GUNKUL ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชงจากสหรัฐฯ รวมถึงผลิต (ปลูก) กัญชง และผลิต (ที่มิใช่การปลูก) ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรมนั้น

ขณะนี้กลุ่มบริษัทได้เดินหน้ารุกธุรกิจกัญชงและกัญชาตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเต็มที่ โดยเน้นการเติบโตไปพร้อมๆ กับพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้ร่วมกันในการต่อยอดธุรกิจกัญชง กัญชา เพื่อขยายตลาดตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พร้อมนำผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพส่งต่อไปยังผู้บริโภค

ทั้งนี้บริษัทได้ให้ความสำคัญในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยล่าสุดได้ส่งทีมผู้บริหารไปศึกษาดูงานที่ฝรั่งเศส  เบลเยี่ยม และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งนอกจากไปศึกษาดูงานด้านนวัตกรรมทางการผลิต และเครื่องจักรแล้ว ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการนำเอาตัวอย่างผลิตภัณฑ์กัญชงและกัญชาจากต่างประเทศเพื่อนำมาพัฒนาปรับใช้ให้เข้ากับผู้บริโภคที่ประเทศไทย ที่สำคัญเป็นการวางรากฐานในอนาคตเพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชาส่งออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากกระแสความนิยมมีค่อนข้างสูง

“โดยหลังจากที่กัญชงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เชื่อมโยงสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม 5 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องดื่ม อาหาร ยาและอาหารเสริม เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล นับเป็นโอกาสของ GUNKUL ในการเพิ่มช่องทางในการขยายธุรกิจและสร้างฐานรายได้เพิ่ม โดยเน้นสร้างการเติบโตไปพร้อมๆ กับกลุ่มพันธมิตรที่ได้ร่วมกันต่อยอดธุรกิจกัญชงและกัญชา”ดร.สมบูรณ์กล่าว

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 2/2565 กลุ่มบริษัทมีความมั่นใจในศักยภาพของรายได้และกำไรจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส1/2565 เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นรายได้หลักที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานลม แม้จะไม่ใช่ฤดูกาลของลม แต่กลับมีกระแสลมที่ค่อนข้างแรงและเร็วตามปริมาณฝนที่มีเข้ามาค่อนข้างมากในช่วงนี้ ส่งผลให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น และจะสนับสนุนผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ

รวมทั้ง บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 จากการตัดช่อดอกกัญชงล็อตแรกโรงเรือนแห่งที่ 1 ที่ห้วยบง จังหวัดนครราชสีมาเพื่อส่งเข้าโรงสกัด อีกทั้งยังทยอยรับรู้รายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทมีแผนเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดให้ประมูลกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทมีโอกาสได้รับงานประมาณ 7-10% ของมูลค่างานทั้งหมด

“ทั้งนี้ตาม Roadmap ของบริษัทโดยวางงบลงทุน 3 ปี (2565-2567) ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เพื่อแบ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน,ลงทุนในธุรกิจกัญชง, ลงทุนในธุรกิจงานก่อสร้างโรงงาน และคลังสินค้า (Built-to-Suit) รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อแตะระดับ 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2566 ส่วนธุรกิจกัญชงล่าสุด บริษัทย่อย “จี.เค.ไบโอ เอ็กซ์แทรคชั่น” ได้รับใบอนุญาตโรงสกัดสาร CBD จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)เรียบร้อยแล้ว และพร้อมนำผลผลิตไปใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอาง รวมถึงยาสมุนไพรออกจำหน่ายสู่ตลาดตามแผนที่วางไว้ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจผลการดำเนินงานจะเติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่าปีละ 20%” ดร.สมบูรณ์ กล่าว

Back to top button