CRD มั่นใจปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” ตุนแบ็คล็อกแน่น 1.89 พันลบ. ลุยประมูลงานต่อเนื่อง

CRD มั่นใจปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” ตุนแบ็คล็อกแน่น 1.89 พันลบ. พร้อมลุยประมูลงานสถานทูตไทยในลาว -งานก่อสร้างมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท คาดรู้ผลภายในไตรมาส 2/65 นี้


นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการทั้งปี 65 จะมีกำไรสุทธิอย่างแน่นอน แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1/65 จะพลิกเป็นขาดทุน 5.85 ล้านบาท โดยเป็นผลมางานก่อสร้างระบบบำบัดสิ่งปฏิกูลป่าตอง ภูเก็ต ยังไม่สามารถดำเนินโครงการได้ และการชะลอโครงการ Holiday Inn Express and Resort , Samui ไปเล็กน้อย เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงผลกระทบจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2/65 โครงการก่อสร้างต่างๆ เริ่มกลับมาดำเนินการได้ตามปกติแล้ว และบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากงานบริการเก็บขยะมูลฝอยเทศบาล จังหวัดเชียงใหม่ เข้ามาเต็มไตรมาส ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้นด้วย

ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมมูลค่า 1,899 ล้านบาท แบ่งเป็นงานรับเหมาก่อสร้าง 777 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/65 จะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2/65 นี้ราว 170-180 ล้านบาท ด้านงานให้บริการ (ขยะ) มีมูลค่างานทั้งหมด 1,122 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ราว 60-70 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เดินหน้าประมูลงานด้านโครงการรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมูลงานสถานทูตไทยใน สปป.ลาว และงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลงานได้ภายในช่วงไตรมาส 2/65

นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า การเข้ารับงานโครงการใหม่ๆหรือการยื่นประมูลงานโครงการใหม่ บริษัทจะคำนึงถึงพิจารณาถึงความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงที่มีทิศทางปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้มีความเหมาะสม เพื่อที่จะไม่ให้มีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในอนาคต

“หลังจากที่ภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ และ เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยหนุนให้มีเงินเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และ ผู้ประกอบการกลับมาขยายการลงทุนอีกครั้ง จะเป็นส่วนเพิ่มช่วยสนับสนุนการรับงานของบริษัท และ ผลประกอบการของบริษัทในระยะต่อไป”นายธีรพัฒน์ กล่าว

Back to top button