โบรกฯ คัด 6 ธีมน่าลงทุน ชู 18 หุ้นเด่น รับปัจจัยบวกเฉพาะตัว

“กสิกรไทย” แนะ 6 ธีมหุ้นน่าลงทุนเดือนมิ.ย.65 พร้อมชู 18 หุ้นพร้อมรับปัจจัยบวกเฉพาะตัว ย้ำเป้า SET สิ้นปี 65 อยู่ที่ 1,650 จุด


เริ่มเข้าสู่การลงทุนในช่วงเดือนมิ.ย.2565 ทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมกลยุทธ์การลงทุนพร้อมปัจจัยที่ต้องจับตาในการลงทุนมานำเสนอ โดยอาศัยบทวิเคราะห์จากบล.กสิกรไทย ซึ่งได้เผยแพร่บทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2565 ดังนี้

โดยบล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงเป้า SET Index สิ้นปี 2565 ไว้ตามเดิมที่ 1,650 จุด จากการปรับปีฐาน EPS จากกลางปี 2565 เป็นสิ้นปี 2565 ขณะนี้คาดว่าอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ระยะเวลา 10 ปี จะอยู่ที่ 2.90% จากประมาณการเดิมที่ 2.60% โดย SET index ฟื้นตัวขึ้น 4.5% หลังแตะระดับต่ำสุดที่ 1,580 จุด เมื่อเดือนก่อนหนุนจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป

ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังอยู่ในระดับต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มุมมองบวกที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจแตะระดับสูงสุดแล้วจาก US Core EPS ที่ปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงในเดือนเม.ย.2565 การยุติสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการเปิดเศรษฐกิจจีนหลังควบคุมการระบาดได้

ทั้งนี้จึงแนะนำให้ใช้จังหวะที่หุ้นฟื้นตัวในการลดพอร์ตจาก upside ที่จำกัดต่อราคาเป้าหมายของบล.กสิกรไทย และปัจจัยลบจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวของ Fed และการปรับลดประมาณการกำไรลง ซึ่งบล.กสิกรไทย คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับสูงจากราคาน้ำมันและอาหารที่สูงผลจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักลงจากนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ของจีน และราคาของภาคบริการที่สูงขึ้นจากอุปสงค์ที่อั้นไว้หลังสิ้นสุดวิกฤติโควิด-19

โดยมองว่าการที่ Fed จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย และลดขนาดงบดุลจะเพิ่มความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและเป็นแรงกดดันต่อมูลค่าหุ้นซึ่งอาจทำให้นักลงทุนขาดทุนจากราคาสินทรัพทย์เสี่ยงที่ปรับตัวลง หากจีนตัดสินใจที่จะเดิมพันด้วยวัคซีน mRNA ของตัวเองและคงนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ คาดว่าจีนอาจต้องเลื่อนเปิดประเทศออกไปจากคาดการณ์ของตลาดคือในไตรมาส 4/2565 อีก 2 ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คือพัฒนาการเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสฝีดาษลิง และการใช้จ่ายเงินของภาครัฐที่น้อยกว่าคาดจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ และต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ดังนั้นจึงแนะนำหุ้นเด่นรายเดือนมิ.ย. มี 6 ธีมลงทุนขณะนี้ ได้แก่

ผู้เล่นอัตราตอบแทนปันผลสูง (KKP, KTB และ DTAC) คาดว่าหุ้นปันผลเหล่านี้จะเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดในช่วงที่ตลาดอ่อนตัวลง

ผู้เล่นที่มีประกันความเสี่ยงต่อไวรัสฝีดาษลิง (BCH และ STA) คาดว่ากลุ่มโรงพยาบาลและถุงมือทางการแพทย์จะได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสฝีดาษลิง

ผู้เล่นกลุ่ม Anti-commodities (BGRIM และ EPG) คาดว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลบวกต่อ BGRIM และ EPG จากต้นทุนวัตถุดิบตั้งต้นที่ลดลง

ผู้เล่นกลุ่มเปิดประเทศ (MTC, BEM, BJC, ANAN และ SPRC) การเปิดเศรษฐกิจ/การเปิดภาคเรียน/กลับไปทำงานที่สำนักงาน รายได้ภาคเกษตรและค่าแรงที่สูงขึ้นคาดจะช่วยหนุนอุปสงค์สินเชื่อของ MTC จำนวนผู้โดยสาร/รถยนต์ที่ใช้ทางพิเศษของ BEM SSSG ของ BJC ยอดขายของ ANAN และ GRM ของ SPRC ให้สูงขึ้น

ผู้เล่นกลุ่มเติบโต (RBF, GUNKUL และ CHAYO) คาดว่าทั้ง 3 บริษัทจะรายงานกำไรสุทธิที่เติบโตแข็งแกร่งในปี 2565/66

พัฒนาการเชิงบวกในจีน (PSL, JWD และ SCGP) การเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนคาดจะช่วยหนุนค่าระวางเรือของ PSL ปริมาณขนส่งของ JWD และราคากระดาษของ SCGP ให้สูงขึ้น

Back to top button