SET ปิดเช้าร่วง 23 จุด วิตก “เงินเฟ้อ” สูงนานฉุดศก.โลก-เฟดเร่งขึ้นดบ.

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดลบ 23 จุด ตอบรับความกังวล “เงินเฟ้อ” สหรัฐสูงกว่าคาดกดดัน “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.50% พร้อมคาดเงินเฟ้ออาจยังอยู่อีกยาวทำให้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว วางแนวรับ 1,605 จุด แนวต้าน 1,615 จุด


10 หุ้นกดดัชนีเช้านี้

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดเช้านี้ที่ระดับ 1,609.65 จุด ลดลง 22.97 จุด (-1.41%) มูลค่าการซื้อขายราว 39,171 ล้านบาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรงกว่า 20 จุดตามทิศทางตลาดโลกและตลาดภูมิภาค จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนมุมมองจากที่คาดว่าเงินเฟ้อขึ้นมากพอสมควรแล้ว มาเป็นคาดว่าเงินเฟ้อสูงอาจลากยาว โดยการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบนี้ (14-15 มิ.ย.) มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยมากว่า 0.50% นอกจากนั้นยังมองว่าจะกระทบกับความเชื่อมั่นและกังวลเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวหรือเกิดภาวะ Stagflation ขึ้น

โดยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยน่าสนใจ อาทิ ทองคำ สินค้าโภคภัณฑ์ (น้ำมัน, สินค้าเกษตร) กอง REIT รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ย เช่น หุ้นกลุ่มประกัน ขณะที่กลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจมองว่าช่วงระยะสั้นกระทบ และกลุ่มที่ใช้พลังงาน เช่น กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่ม Transport ก็รับผลกระทบ (ยกเว้น AOT ที่ไม่มีต้นทุนพลังงาน) รอบนี้หุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ซึมลง มีสัญญาณปรับประมาณการในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ส่วนหุ้นที่ไม่มีความเสี่ยงปรับประมาณการเศรษฐกิจ อาทิ AOT, DMT, WHART

พร้อมแนะนำหุ้นไทยกลุ่มที่น่าลงทุนในภาวะตลาดปรับตัวลง ได้แก่ กอง REIT และกลุ่มเปิดเมืองที่แม้วันนี้ก็มีแรงขายทำกำไร แต่ยังมีหุ้นที่ราคายัง Laggard อาทิ SPA , VRANDA

ส่วนแนวโน้มตลาดช่วงบ่าย นายกิจพณ กล่าวว่า มีโอกาสซึมลงมาบริเวณ 1,600 จุดต้นๆ หลังจากดัชนีหลุดแนวรับสำคัญ 1,630 จุด โมเมมตัมระยะสั้นเป็นลบ แต่คงไม่เห็นตลาดลดลงแรงไปมากกว่านี้ จึงมองโอกาสเข้าซื้อเพื่อถือยาวให้แนวรับที่ 1,605 จุด แนวต้านที่ 1,615 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

TOP มูลค่าการซื้อขาย 2,043.94 ล้านบาท ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 4.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,924.31 ล้านบาท ปิดที่ 36.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,768.55 ล้านบาท ปิดที่ 108.00 บาท ลดลง 3.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,042.86 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,038.22 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

Back to top button