จับตาบ่าย SCB ดีดแรง! หลัง Q2 โกยกำไรทะลุหมื่นล้าน

จับตาบ่าย SCB ดีดแรง! หลังกำไรไตรมาส 2 ทะลุหมื่นล้าน โต 14% รับรายได้ดอกเบี้ยหนุน ลุ้นครึ่งปีหลังโตต่อเนื่องรับอานิสงส์สินเชื่อโตตามเป้าดันทั้งปีโต 3-5% และมีการตั้งสำรองที่ลดลง


บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/65 และงวด 6 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรอง อยู่ที่ 22,764 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการขยายตัวของฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ สำหรับครึ่งปีแรกของปี 65 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 20,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยในไตรมาส 2 บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ที่ 26,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผล จากการขยายตัวของอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้และการมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพด้วย อัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม

ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 65 อยู่ที่ 3.58% ปรับตัวลดลงจาก 3.70% ณ สิ้นเดือนมี.ค. 65 ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังอยู่ในระดับสูงที่ 153.30% (เพิ่มขึ้นจาก 143.90% ณ สิ้นเดือนมี.ค. 65) และเงินกองทุนตามกฎหมายยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.70%

ขณะเดียวกันงวดครึ่งปีแรก 65 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 20,095 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.30 จากงวเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 18,902 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงทำกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 โดยมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยึดหลักการบริหารด้วยความระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอ จึงได้ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและป้องกันความผันผวนที่อาจเกิดจากปัจจัยภายนอกและอัตราเงินเฟ้อระดับสูง

นอกจากนี้บริษัทลูกในกลุ่มเทคโนโลยีมีการเติบโตในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด มียอด ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3.10 ล้านราย และมียอด Gross Merchandise Value (GMV) เพิ่มขึ้นกว่า 7 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด และบริษัท มันนิกซ์ จำกัด ต่างมียอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า และมียอดผู้ใช้งานรวมเร่งขึ้นไปเป็นกว่า 4.50 ล้านราย ในด้านธุรกิจเปิดใหม่ บริษัท ออโต้ เอกซ์ จำกัด ก็ได้เปิดสาขาไปแล้วกว่า 700 แห่งทั่วประเทศและพร้อมเดินหน้าธุรกิจเต็มที่ในครึ่งปีหลัง ทั้งหมดนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ยานแม่ที่จะมุ่งมั่นสร้างมูลค่าและขับเคลื่อนกลุ่มเอสซีบีเอกซ์สู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาคต่อไป

อย่างไรก็ดีปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับร้อยละ 3-5 แม้ว่าการเติบโตของสินเชื่อในครึ่งปีแรกยังต่ำกว่าเป้าหมาย โดยบริษัทฯ คาดว่าแนวโน้มการเติบโตจะดีขึ้นในครึ่งปีหลังและจะทำให้การเติบโตของสินเชื่อทั้งปีแตะระดับช่วงบนของเป้าหมายได้และจากการที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยดีกว่าคาดในครึ่งปีแรกปี 65 รวมถึงการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 2 ครั้งในครึ่งปีหลังปี 65 บริษัทฯ ได้ปรับเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของทั้งปีขึ้นเป็นร้อยละ 3.10-3.20

ขณะเดียวกันบริษัทฯ คาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพคาดจะไม่เกินร้อยละ 3.60 ณ สิ้นปี 65 เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองในระดับสูงในครึ่งปีแรกปี 65 บริษัทฯ คาดว่าอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น สำหรับทั้งปีจะอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 1.45 เพิ่มขึ้นจากเป้าเดิมที่ไม่เกินร้อยละ 1.40 และบริษัทฯ ยกเลิกเป้าหมายอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ

ทั้งนี้ในส่วนของราคาหุ้น SCB มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากที่หลุดแนวรับจิตวิทยา 100 บาท กระทั่งล่าสุดมาอยู่ที่บริเวณแนวรับ 90 บาท ซึ่งก็เป็นที่น่าจับตามองว่าหลังจากที่บริษัทฯ มีการประกาศงบไตรมาส 2/65 ออกมามีการเติบโต 14% ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท คาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในช่วงภาคบ่ายที่จะมีโอกาสดีดกลับแรง สำหรับราคาหุ้น SCB ปิดช่วงภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 91 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.28% มูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 1,707 ล้านบาท

Back to top button