สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ส.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ส.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันอังคาร (16 ส.ค.) เนื่องจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทค้าปลีกช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองบวกต่อการอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ดี การร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้ฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,152.01 จุด พุ่งขึ้น 239.57 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,305.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด หรือ +0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,102.55 จุด ลดลง 25.50 จุด หรือ -0.19%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (16 ส.ค.) โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปลอดภัยและกลุ่มเหมืองแร่ แม้ความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยจำกัดการปรับตัวขึ้นของตลาดก็ตาม

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 443.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.72 จุด หรือ +0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,592.58 จุด เพิ่มขึ้น 22.63 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,910.12 จุด เพิ่มขึ้น 93.51 จุด หรือ +0.68% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,536.06 จุด เพิ่มขึ้น 26.91 จุด หรือ +0.36%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (16 ส.ค.) ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ เนื่องจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทบีเอชพี กรุ๊ป ได้หนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้น

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,536.06 จุด เพิ่มขึ้น 26.91 จุด หรือ +0.36%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันอังคาร (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย หลังจากสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากแนวโน้มความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 86.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 2.76 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 92.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (16 ส.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,789.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 18.7 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 20.085 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 931.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 2,149 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (16 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.04% แตะที่ระดับ 106.5000

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0172 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0157 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2090 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2055 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7022 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7021 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.22 เยน จากระดับ 133.31 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9499 ฟรังก์ จากระดับ 0.9468 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2848 ดอลลาร์ แคนาดา จากระดับ 1.2909 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button