BANPU ลุ้นผลงาน Q3 สดใส รับ “ถ่านหิน-ก๊าซ-ไฟฟ้า” หนุน ดันกำไรทั้งปี 4.4 หมื่นล้าน

BANPU ลุ้นกำไรไตรมาส 3/65 โตแกร่ง รับอานิสงส์ “ถ่านหิน-ก๊าซ-ไฟฟ้า” หนุน คาดดันกำไรสุทธิทั้งปี 65 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 346%


บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ส.ค.65) มองเป็นโอกาสที่ดีของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU หลัง BKV (BANPU ถือหุ้น 96.12%) ซื้อสัดส่วนในแหล่งก๊าซฯ Barnett เพิ่ม ตั้งแต่สิ้นไตรมาส 2/65 ที่ผ่านมา ซึ่งจะมารับรู้ Operation ในส่วนที่เพิ่มขึ้นได้เต็มไตรมาสในไตรมาส 3/65 ทำให้ยอดขายก๊าซฯ ในไตรมาส 3/65 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 225 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (MMSCFD) เพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อน

ขณะที่ราคาขายก๊าซฯ ตลาด Henry Hub ยังคงทรงตัวในระดับสูงที่ 7.78 เหรียญต่อ MMBTU เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 78.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจาก Domestic Demand ที่เพิ่มขึ้น ตามการคาดหมายการขยายตัวภาคการบริโภคในประเทศ ซึ่งคาดว่าในปี 2565 จะมีอัตราดการขยายตัวอยู่ที่ 3% ประกอบกับในช่วงปลายปีเป็น seasonal demand จากสภาพอากาศที่หนาวเย็น เป็นปัจจัยหนุนราคาขายก๊าซฯ ปรับเพิ่ม

ส่วนราคาขายก๊าซฯ ตลาด Newcastle ยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยราคาถ่านหินเฉลี่ยไตรมาส 3/65 จากไตรมาสก่อนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 416 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 10.1% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 153.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แม้ภาพรวม Demand จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว จากผลของมาตรการ Zero-covid policy และวิกฤตอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตามยังมีมุมมองเป็นบวกต่อราคาถ่านหิน จาก Demand ที่แข็งแกร่งจากอินเดีย และยุโรป ที่ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการ Sanction รัสเซีย ทำให้ความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น เพื่อทดอทนอุปทานก๊าซฯ ที่ตึงตัวหลังรัสเซียลดปริมาณการส่งก๊าซฯ มายังยุโรป รวมไปถึงการคาดหมาย Demand ถ่านหินในจีนที่เพิ่มขึ้น เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าพลังน้ำ หลังสถานการณ์ในประเทศเริ่มประสบปัญหาภัยแล้ง

นอกจากนี้มีมุมมองเป็นบวกต่อกาไรปกติไตรมาส 3/65 ซึ่งนอกจากธุรกิจถ่านหิน และก๊าซฯ ที่แข็งแกร่ง ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (BPP) คาดว่าจะมีกำไรที่เติบโตทั้งไตรมาส และจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยในช่วงไตรมาส 3/65 จะเป็น High season ของโรงไฟฟ้า Temple I ในสหรัฐฯ ขณะที่การปรับเพิ่มค่าไฟ จะทำให้ผลประกอบการธุรกิจโรงไฟฟ้าในจีนดีขึ้น จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มไตรมาสใน โรงไฟโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โครงการ ชูง็อก (Chu Ngoc) และโครงการน็อนไห่ (Nhon Hai) กาลังผลิตรวม 50 เมกะวัตต์ (เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ มิ.ย. 65) โดยคาดว่ากาไรสุทธิของ BPP ในช่วงไตรมาส 3/65 จะเป็นจุดสูงสุดของปี 65

อย่างไรก็ดีคาดว่ากำไรสุทธิปี 65 อยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 346% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นการสะท้อนกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกปี 65 ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานปกติ ยังได้ปัจจัยหนุนจาก (1) ราคาขายผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งราคาก๊าซฯ และราคาถ่านหิน (2) ปริมาณขายก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังของปี 65 (3) กำไรจากธุรกิจไฟฟ้า (BPP) ที่ปรับเพิ่ม และ (4) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนธุรกิจถ่านหินในจีนที่เพิ่มขึ้นปัจจัยบวกทั้งหมดเพียงพอชดเชยปัจจัยลบจากการรับรู้ Hedging loss ที่เกิดขึ้น ประเมินว่าสถานการณ์ด้าน Geopolitics ระหว่างยุโรปกับรัสเซีย รวมไปถึง Seasonal demand ในช่วงปลายปี ที่จะเข้าสู่ฤดูหนาวและการเจรจาปรับราคาขายถ่านหิน รวมไปถึงการขยายกาลังผลิตในธุรกิจผลิตไฟฟ้า (BPP) ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการ โรงไฟฟ้าเทคโนโลยี HELE ในจีน จะเป็นปัจจัยเพิ่มน้ำหนักต่อการปรับประมาณการ

นอกเหนือปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 65 และมีโอกาสที่จะดีต่อเนื่องถึงปี 66 เป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุน มองว่า BANPU จะเป็นบริษัทที่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในระยะยาวตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และเงินที่ได้จากแปลง BANPU-W4 ในปี 65 ซึ่งบริษัทมีแผนจะคืนหนี้บางส่วน ซึ่งจะทำให้ Interest baring-debt ลดลงจาก 1 เท่า ในปี 65 เหลือ 0.7 เท่า ในปี 66 มีมุมมองเป็นบวกต่อ BANPU ทำให้แนะนา “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 66 ไว้ที่ 17 บาท

Back to top button