“โกลเบล็ก” แนะจับตางบ “แบงก์” ชู SCB-BBL-KBANK กำไรเด่น พ่วง 5 หุ้นรับไฮซีซั่นท่องเที่ยว

โบรกฯแนะจับตางบ “แบงก์” ไตรมาส 3/65 ชู SCB-BBL-KBANK กำไรเด่น พ่วง 5 หุ้นเด่นที่ได้รับอานิสงส์การท่องเที่ยวฟื้นตัวรับไฮซีซั่น


นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน Sideway Down คาดการณ์กรอบเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ 1,550-1,590 จุด โดยคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเนื่องจากติดวันหยุดยาวในช่วงปลายสัปดาห์ ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันที่ 13 ต.ค.นี้ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ที่ 8.3% อาจทำให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75%

โดยก่อนหน้านี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 315,000 ตำแหน่งในเดือน ส.ค. ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.7% ในเดือน ส.ค.กดดันเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่สัญญาณบ่งชี้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังยืดเยื้อต่อไปหลังเกิดเหตุไฟไหม้รถบรรทุกถังน้ำมันบนสะพานเคิร์ชในไครเมีย ซึ่งตามมาด้วยรัสเซียยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตียูเครน และ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่าสกุลเงินของเอเชียมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอีก 1 ไตรมาสหลังเฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สำหรับปัจจัยที่ยังต้องจับตา อาทิ ปัจจัยในประเทศ ได้แก่ วันที่ 12 ต.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ, วันที่ 12-21 ต.ค. กลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวดไตรมาส 3/65

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะประกาศผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/65 ออกมาดี จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ BBL (คาดกำไรเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน), KBANK (คาดกำไรโตจากปีก่อนและไตรมาสก่อน), KTB (กำไรโตจากปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน) และ SCB (กำไรเติบโตจากปีก่อนและไตรมาสก่อน)

รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นปลายปี และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP และ SPA

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า สัปดาห์นี้ยังคงต้องจับตาตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์อาจกดดันให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เนื่องจากในระยะถัดไปแนวโน้มเงินเฟ้ออาจทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง สาเหตุมาจากโอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ย.65 ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ล่าสุดอยู่เหนือระดับ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้ออีกครั้ง

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำผันผวนในระหว่างสัปดาห์ โดยหากหากราคาทองคำอ่อนตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,680เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนะนำทยอยเข้าซื้อสะสม และมีจุดทำกำไรที่แนวต้าน 1,750 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

Back to top button