SCN จ่อปิดดีล “งานรับเหมาก่อสร้าง” ดัน “SAP” เข้าเทรดปี 66

SCN ส่งสัญญาณท้ายปี เร่งปิดดีลประมูลงานรับเหมาก่อสร้าง คาดปีนี้ผลประกอบการฟื้นตัว รับอานิสงส์ราคาน้ำมันและค่าไฟขึ้น พร้อมส่งบริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด หรือ SAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปลายปี 66


ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทุกธุรกิจล้วนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจก๊าซที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจนทำให้มีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจ Solar Rooftop ที่น่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากราคาค่าไฟที่สูงขึ้นจนทำให้คาดว่าจะสามารถนำบริษัท สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์ จำกัด หรือ SAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในปลายปี 66

ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เมืองมินบู ถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพราะกำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศเมียนมาร์ นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจใหม่ที่มีความโดดเด่น น่าสนใจ ทั้งธุรกิจกัญชาซึ่งเริ่มมีการขายและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งถือเป็นอีกธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูงและธุรกิจประมูลงานรับเหมาก่อสร้างและซ่อมบำรุงสถานี NGV ที่คาดว่าจะสามารถปิดดีลงานประมูลได้อีก 1-2 โครงการภายในปีนี้ รวมถึงการเข้าประมูลงานก่อสร้างที่ไม่เกี่ยวกับแก๊ส (non-gas) สำหรับสถานีให้บริการน้ำมันรูปแบบใหม่ทำให้ภาพรวมของ SCN ในปีนี้ น่าจะมีผลประกอบการที่ฟื้นตัว และเติบโตต่อเนื่องอย่างแน่นอน ภายหลังจากที่ผลประกอบการช่วงครึ่งปีแรกมีการเติบของกำไรสุทธิถึง 669%

โดยภาพรวมธุรกิจของ SCN ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานั้น กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) และก๊าซธรรมชาติเหลว (iLNG) ภายหลังจากที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา SCN ขายหุ้นบริษัท เครือข่ายก๊าซ ไทย-ญี่ปุ่น จำกัด (TJN) ให้กับกลุ่ม บริษัท Shizuoka Gas Company Limited ประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด Toho Gas Co. Ltd. พันธมิตรรายใหม่ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติได้เข้ามาร่วมถือหุ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในฐานะผู้นำธุรกิจ iCNG ในประเทศไทย โดยตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปัจจุบันที่มียอดขายราว 5,000 MMBtu ต่อวัน เป็น 10,000 MMBtu ต่อวัน

ขณะเดียวกันธุรกิจก๊าซ NGV คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้าเริ่มหันมาใช้ก๊าซ NGV ทดแทน โดยปีนี้มีคาดว่ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน นอกจากนี้บริษัทได้เข้าประมูลงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงสถานี NGV เพิ่มเติม 1-2 แห่งทั้งในกรุงเทพฯและส่วนภูมิภาค โดยคาดว่าจะทราบผลประมูลภายในปีนี้ และในส่วนของธุรกิจสัมปทานการซ่อมบำรุงรถเมล์ NGV ของ ขสมก. จำนวน 489 คัน หลังจากที่ครบสัญญา 5 ปีแรกของรถเมล์ 100 คันแรก จะทำให้ได้รับค่าซ่อมบำรุงต่อคันต่อปีเพิ่มขึ้น ประกอบกับการดูแลและซ่อมบำรุงอย่างดีในช่วงปีแรกๆ และคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 100-200 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) นั้น มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสดงอาทิตย์ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมาร์ โดยมีกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมด 220 เมกะวัตต์ โดยที่เฟสที่ 2 จำนวน 50 เมกะวัตต์ จะสร้างเสร็จและเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ ภายในไตรมาส 1 ของปี 66 หลังจากที่เฟสแรก 50 เมกะวัตต์ ได้จ่ายไฟและรับรู้รายได้แล้วตั้งแต่ปี 62 ขณะที่ปีหน้าคาดว่าจะเริ่มลงทุนในอีก 2 เฟสที่เหลือ

ส่วนของธุรกิจ Solar rooftop ภายใต้การดำเนินงานของ SAP ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 25 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตที่ 110 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทจะระดมทุนและหาพันธมิตรในการเจรจาควบรวมเพื่อซื้อกิจการ เพื่อขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต และตั้งเป้านำบริษัทเข้าจะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

ด้านธุรกิจใหม่การปลูกกัญชงแบบ Indoor บนพื้นที่ 3,159 ตารางเมตร โดยเริ่มปลูกในช่วงไตรมาสที่ 2 และคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 65 โดยมีกำลังการผลิต 200 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจในเฟสแรกประมาณ 270 ล้านบาทต่อปี

Back to top button