SABUY ควักกว่า 900 ลบ. ซื้อหุ้น AIT เพิ่ม 6% พร้อมฮุบ “LoveLeasing-SKH” ต่อยอดธุรกิจ

บอร์ด SABUY ไฟเขียวควักเงินกว่า 929 ลบ. ไล่ซื้อหุ้น AIT เพิ่ม 6.26% หนุนถือเป็น 21.1% พร้อมเทกกิจการขายผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า “LoveLeasing”-ธุรกิจให้บริการรับเหมาแรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออก “SKH” ต่อยอดธุรกิจครบวงจร เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ หนุนโตระยะยาว เตรียมขายหุ้น PTECH ออก 0.55%


บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 83,333,300 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 6.26 ในบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผ่านการซื้อขายในกระดานหลักซื้อขายหลักทรัพย์ (Main Board) ในวงเงินไม่เกิน 500,000,000 บาท โดยบริษัทฯ จะทยอยทำรายการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.65

สำหรับรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 26 ส.ค.65 ก่อนวันใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ AIT ครั้งที่ 2 (AIT-W2) ทั้งนี้ ภายหลังการใช้สิทธิ AIT-W2 จำนวน 140,000,000 หน่วย เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 18/65 เมื่อวันที่ 18 ต.ค.65 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนเพิ่มในหุ้นสามัญ AIT ทั้งนี้ บริษัทฯ ถือหุ้น AIT ทั้งหมดจำนวน 197,400,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.8 ก่อนการเข้าทำธุรกรรม และภายหลังการเข้าทำธุรกรรมบริษัทฯ จะถือหุ้น AIT ทั้งหมดไม่เกิน 280,733,300 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.1

โดย AIT ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร (System Integrator หรือ SI) ให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีลักษณะการให้บริการเป็นแบบเบ็ดเสร็จ หรือ เทิร์นคีย์ (Turn Key) ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผนงานโครงการ การออกแบบระบบ การดำเนินการ การติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษา

โดยบริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวกลุ่มบริษัทมีความต้องการสร้าง SABUY Infrastructure การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น Cloud System and Data Center Services โปรแกรมระบบปฏิบัติการต่างๆ รองรับการเติบโตของการใช้งานอินเตอร์เน็ตและเทคโนโลยีได้ในอนาคต และยังรวมถึงธุรกิจพื้นฐานอื่นๆ ที่ช่วยต่อยอด หรือ สร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจของ SABUY และพันธมิตร เช่น ระบบธุรกิจขายตรง ระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Management) ระบบการติดตามหนี้ เป็นต้น

ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ช่วยต่อยอดธุรกิจใน Ecosystem ของกลุ่มบริษัทโดยเฉพาะ กลุ่ม SMEs สามารถใช้งานเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะช่วยในการจัดการธุรกิจของ SMEs ให้มีศักยภาพในการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ด้วยตันทุนที่สามารถเข้าถึงได้ มีความสมเหตุสมผล และเป็นไปตามอีกหนึ่งเป้าหมายของกลุ่มสบายที่ต้องการช่วยพัฒนาศักยภาพให้แก่ SMEs ซึ่งเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทย

อีกทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน อัตราการเติบโตของสินทรัพย์ ผลกำไร และกระแสเงินสดให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

รวมทั้งให้บริษัท สบาย แคปปิตอล พลัส จำกัด (SBCAP) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัท เลิฟ ลิสซิ่ง จำกัด (Love Leasing) จำนวนไม่เกิน 1,540,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมดใน LoveLeasing จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ LoveLeasing

ทั้งนี้ Love Leasing เป็นผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยวิธีผ่อนชำระ โดยยึดถือหลักการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อให้ลูกค้าลามารถใช้ชีวิตได้สะดวกสบายและง่ายขึ้น โดยมีการวางแผนการผ่อนชำระค่างวดให้เหมาะสมกับรายได้ของลูกค้า โดย LoveLeasing มุ่งเน้นไปที่ตลาดในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันตกของประเทศ ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 20 สาขา

โดย SBCAP จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 400,000,000 บาท ให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ Love Leasing โดยแบ่งชำระเป็น 2 งวด ดังนี้ งวดที่ 1 จำนวน 188, 131,428.57 บาท ในเดือนพ.ย.65 และงวดที่ 2 จำนวน 211,868,571.43 บาท ภายในเดือนก.ย.66 ทั้งนี้ SBCAP จะได้รับโอนหุ้นสามัญทุ้งหมดของ Love Leasing ในเดือนพ.ย.65

ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ ขยายไปในธุรกิจการจำหน่ายสินค้าเงินผ่อน และการจำนำทะเบียนรถในตลาดรากหญ้าในภาคเหนือ ภาคอีกสาน และภาคตะวันตก ซึ่งจะเป็นการขยาย Ecosystem กลุ่ม financial service และเสริมสร้าง financial inclusion และเป็นการเสริมสร้างธุรกิจ financial service ของบริษัทฯ ให้มีความหลากหลาย และแข็งแกร่งมากขึ้น และเพิ่มรายได้ ผลกำไร และกระแสเงินสดให้แก่บริษัทฯ อันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น

พร้อมทั้งเข้าลงทุนในหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 8,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 80 ในบริษัท เอส.เค.ฮิวเมน รีซอสร์ เซส เซอร์วิส จำกัด (SKH) จาก นางสาวกัญญา วัฒนกุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ SKH ทั้งนี้ SKH ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาแรงงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นหลัก โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 29,556,940.29 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ SKH

โดยบริษัทฯ คาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะเป็นช่วยเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้แก่กลุ่มบริษัทฯ และเพิ่มโอกาสในเสนอบริการธุรกิจการจัดหาและการจัดการทรัพยากรบุคคลแก่บริษัทคู่ค้าใน Ecosystem ของบริษัทฯ และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน อัตราการเติบโตของสินทรัพย์ ผลกำไร และกระแสเงินสดให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

นอกจากนั้นยังมีมติอนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญ ในบริษัท พลัสเทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTECH จำนวนไม่เกิน1,343,497 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 0.55 ของหุ้นทั้งหมดใน PTECH ให้แก่ นางสาวกัญญา วัฒนกุล โดยบริษัทฯ จะได้รับชำระด้วยเงินสด

Back to top button