
“กสิกรไทย” มองกรอบ SET สัปดาห์หน้า 1,100 -1,145 จุด จับตางบแบงก์–ภาษีสหรัฐ
“บล.กสิกรไทย” มองกรอบ SET สัปดาห์หน้า (14-18 ก.ค.68) แกว่งตัวในแนวรับ 1,110- 1,100 จุด ขณะที่แนวต้าน 1,130-1,145 จุด จับตาผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของ บจ.ไทยโดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ และทิศทางมาตรการภาษีสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (12 ก.ค. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (14-18 ก.ค.68) กรอบแนวรับอยู่ที่ 1,110- 1,100 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,130-1,145 จุด ตามลำดับ โดยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการไตรมาส 2/68 ของ บจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ และทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ค.ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของจีน อาทิ ตัวเลขส่งออก ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
อีกทั้ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวผันผวนแต่กลับปิดสูงกว่าระดับปิดสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย อีกทั้ง ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ จากคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของไทยยังคงติดลบต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีปัจจัยกดดันจากสหรัฐฯ ที่เตรียมออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) มายังไทยและมาเลเซียก็ตาม
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงในเวลาต่อมาจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ หลังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ ยืนยันเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) ต่อสินค้าไทยในอัตราเดิมที่ 36% ซึ่งสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรหุ้นหลายกลุ่ม
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าดัชนีหุ้นไทยไม่ได้ร่วงลงแรงมากนัก เนื่องจากตลาดมองว่าสหรัฐฯ ยังเปิดช่องให้มีการเจรจาเพื่อต่อรองเพิ่มเติม สะท้อนจากการเลื่อนช่วงบังคับใช้ภาษีดังกล่าวจากเดิม 9 ก.ค.68 เป็น 1 ส.ค.68
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยกลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งจากข่าวการเตรียมงบลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม รวมถึงแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคปก่อนการทยอยประกาศงบไตรมาส 2/2568 ทั้งนี้นักลงทุนยังคงติดตามประเด็นนโยบายภาษีของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
สำหรับเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,121.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.11% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 30,128.95 ล้านบาท ลดลง 19.27% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.80% มาปิดที่ระดับ 236.42 จุด