KBANK มองกรอบ “เงินบาท” สัปดาห์หน้า 32.20-32.80 บ. จับตาเจรจาภาษีทรัมป์

KBANK มองกรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 14-18 ก.ค.68 ที่ระดับ 32.20-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาทิศทางการเจรจาภาษีสหรัฐของไทยและประเทศคู่ค้าอื่น


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (12 ก.ค. 68) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้า (14-18 ก.ค.68) ไว้ที่ระดับ 32.20-32.80 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า (รวมถึงไทย) เงินลงทุนของต่างชาติ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนก.ค. ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

รวมไปถึงรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัญ (เฟด) นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/2568 ของจีน และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น

ขณะที่ สถานการณ์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทขยับอ่อนค่าแต่พลิกแข็งค่ากลับมาท้ายสัปดาห์ตามแรงหนุนของทองคำตลาดโลก เงินบาทอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าหลายประเทศรวมถึงไทย

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในช่วงปลายเดือนนี้ หลังจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงมากกว่าคาด และบันทึกการประชุมเฟด บ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเฟดไม่จำเป็นต้องเร่งปรับลดดอกเบี้ย

แม้จะยังคงมองว่าทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีนี้ยังเป็นขาลง อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาพลิกแข็งค่าผ่านแนว 32.50 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกท่ามกลางความกังวลในเรื่องความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ

หากย้อนกลับไปวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.36 บาท/ดอลลาร์ในวันศุกร์ก่อนหน้า (4 ก.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 7-11 ก.ค.68 นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 2,930 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 2,824 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 2,193 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 631 ล้านบาท)

Back to top button