“จุรินทร์” หนุน 3 สมาคมไทยเซ็น MOU ดึง “ฟิลิปปินส์” ซื้อมันสำปะหลัง 2 หมื่นล้าน

"จุรินทร์" หนุน 3 สมาคมมันสําปะหลังไทย ร่วมลงนาม MOU กับ “สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของฟิลิปปินส์” ซื้อมันสำปะหลังล็อตใหญ่ 2 ล้านตัน มูลค่า 2 หมื่นล้านบ. เผยความคืบหน้านโยบายประกันรายได้เกษตรกร รอ “ค.ร.ม.” พิจารณา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยานพิธีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เจรจาซื้อขายผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังระหว่างสมาคมมันสําปะหลังไทย 3 สมาคม และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของฟิลิปปินส์ (The Philippines Association of Feed Millers, Inc. : PAFMI) ถือเป็นโอกาสอันดีได้พบกับพี่น้องเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งมีหลายกิจกรรม

ทั้งนี้มีการมอบป้ายและโฉนดของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ไม่ให้ถูกยึดที่ดินทำกินให้มาเป็นหนี้กับกองทุนฟื้นฟูแทน ตอนที่ตนมาดูแลปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 0% และมีงบในการฟื้นฟูเพื่อให้ทำอาชีพรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรด้วย รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ ยุคนี้ดูแลได้ดีที่สุดยุคหนึ่ง ล่าสุดขออนุมัติเงินงบกลาง 2,000 ล้านบาท และได้มาเพิ่มอีก 500 ล้านบาทสำหรับงบปี 66 จากหลายยุคที่ได้น้อยมาก

ในส่วนของเรื่องการเกษตรอ้อยมีระบบการดูแลราคาที่ดี ทำให้ราคาอ้อยช่วยให้พี่น้องยังชีพได้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นยุคที่ราคาดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แตะกิโลกรัมละ 12 บาท มันสำปะหลัง โคราชคือเมืองหลวงมันสำปะหลังของไทย ปลูกมากที่สุดและ 2 ปีที่ผ่านมาราคาดีที่สุดยุคหนึ่ง ดีที่สุดในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะขึ้นไปมากกว่านี้เพราะ มีระบบที่กระทรวงพาณิชย์นำมันสำปะหลังทำให้ราคาดีขึ้นโดยใช้ระบบ เกษตรพันธสัญญา ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้มีหลักประกัน เป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ ที่เรียกว่า อมก๋อยโมเดล ซึ่งทำได้ไวทำได้จริง

“อย่างไรก็ตามครั้งนี้เป็นล็อตใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 3 สมาคม ประกอบด้วย นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย กับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ของฟิลิปปินส์ ซื้อมันเส้น 2,000,000 ตัน ส่งมอบภายในหนึ่งปี และอาจซื้ออีก เซ็นสัญญาวันนี้ 2,000,000 ตัน ซึ่งยังมีไม่มีฟิลิปปินส์ซื้อราคายังสูงที่สุดในรอบ 12 ปี เฉลี่ย 3 บาทกว่า อาจจะเหมือนข้าวโพดที่ราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ได้ ให้พี่น้องได้เห็นว่าเราตั้งใจทำ “ทำได้ไว ทำได้จริง” อย่างที่พูดไว้ ซึ่งหวังว่าปีนี้หากส่งได้ครบถ้วนถูกต้อง ปีหน้าจะมาซื้อของเราอีก จะมีเสถียรภาพมากขึ้นไปอีก

และถ้าวันไหนราคาตก จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่เรายังมีนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่จะเป็นหลักประกันให้พี่น้องเกษตรกร คือ นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ที่เป็นเงื่อนไขและนโยบายดั้งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรัฐบาล และนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายของรัฐบาลดำเนินการมา 3 ปีเต็ม ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 4 ปีสุดท้าย ซึ่งกำลังรอการพิจารณาของ ครม.” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายในเดือนม.ค.จะมีจัดการประชุมมันสำปะหลังโลกที่จ.นครราชสีมา เพื่อให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าเมืองหลวงของมันสำปะหลังประเทศไทยที่จ.โคราช ซึ่งเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทำตลาดมันสำปะหลังไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งถ้าทำส่งออกได้ดี ส่งออกได้มาก ปีที่แล้วส่งออกมันสำปะหลัง 120,000 ล้านบาท และปีนี้จะมากกว่า 120,000 ล้านบาท  เมื่อครู่ทำสัญญาไปอีก 20,000 ล้านบาท กับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่กับประเทศไทยปากช่องอนาคตเกษตรกร

โดยภายในงานมีนายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์  นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศและคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) Mr.Edwin Cabias Mapanao ,President of PAFMI นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย ซึ่งมีชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่มาต้อนรับนายจุรินทร์เป็นจำนวนมากและขอบคุณที่ช่วยเหลือเกษตรกรพร้อมอวยพรขอให้นายจุรินทร์เป็นนายกฯคนต่อไปด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและเป็นกันเอง

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ได้มอบเครื่องสับมันสําปะหลังตามโครงการเพิ่มศักยภาพการแปรรูปมันสําปะหลังให้กลุ่มเกษตรกรจำนวน 64 กลุ่ม จาก 8 อำเภอ จำนวน 133 เครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มอบไปทั่วประเทศแล้วจำนวน 1,200 เครื่อง พร้อมเป็นประธานในพิธีมอบเช็คชําระหนี้ จำนวน 5 องค์กร 33 ราย มอบโฉนดที่ดินของกองทุนฟื้นฟูช่วยเหลือเกษตรกรให้แก่เกษตรกรจ.นครราชสีมา จำนวน 10 ราย 16 แปลง และมอบเช็คเงินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกรจำนวน 5 องค์กร 5 โครงการ ผู้เข้าร่วม 275 คน และติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งภายในงานมีสินค้าราคาพิเศษ จากโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน Lot 20 มาจำหน่าย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

Back to top button