ILINK กำไรไตรมาส 3 โต 8% แตะ 85 ลบ. ดัน 9 เดือนทะลุ 260 ลบ.

ILINK รายงานกำไรไตรมาส 3/65 เติบโต 8% แตะ 85 ลบ. ดัน 9 เดือนทะลุ 260 ลบ. โต 11% จากปีก่อนกำไร 235 ลบ.


บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK รายงานกำไรไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

นางสาววริษา อนันตรัมพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป ILINK กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกกลับมาเดินหน้าขับเคลื่อนได้อย่างเต็มกำลัง และด้วยยุคสมัยที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่โลกดิจิทัลอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ผลประกอบการของ ILINK เติบโตต่อเนื่องไปในทิศทางเดียวกัน โดยงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 ILINK มีรายได้รวม 4,862.45 ล้านบาท เติบโตขึ้น 19.29% และมีกำไรสุทธิ 261.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปีก่อน และจากที่บริษัทฯ ชนะการประมูลงานโครงการใหญ่มาล่าสุด ทำให้ปัจจุบัน ILINK มีรายได้รอรับรู้จากธุรกิจวิศวกรรม (Backlog) เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 เท่าตัว สูงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ก็เป็นตัวผลักดันให้สินค้ากลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) ของธุรกิจจัดจำหน่ายขึ้นแท่นเป็น Best Seller ตัวใหม่ จึงเห็นได้ชัดว่าแนวโน้มผลประกอบการโค้งสุดท้าย และภาพรวมทั้งปี 2565 จะสามารถเติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน”

สำหรับไตรมาส 3/65 นี้ ILINK มีรายได้รวม 1,806.61 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16.42% และมีกำไรสุทธิ 85.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจจัดจำหน่าย (Distribution) สามารถทำยอดขายสินค้าได้จำนวน 675.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.01% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 (YoY) และเพิ่มขึ้น 23.35% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/65 (QoQ) ซึ่งอัตรายอดขายที่เพิ่มขึ้นสองหลักในงวดนี้ มีความโดดเด่นต่อเนื่องมาตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา และเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ฝ่ายบริหารได้ตั้งไว้ ปัจจัยบวกยังคงมาจากความต้องการใช้เทคโนโลยีสายสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานทุกระบบ และจากการที่ ILINK เป็นผู้นำเบอร์ 1 ในการจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน

รวมถึงมีการรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาดถึง 30 ปี ส่งผลให้ลูกค้าทุกภาคส่วนเชื่อมั่นในคุณภาพ เลือกใช้เพื่อนำไปพัฒนาโครงข่าย และปรับปรุงระบบต่างๆ อีกทั้ง การประกาศปรับอัตราค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็เป็นตัวผลักดันให้ตลาดแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Cell) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ในงวดนี้ยอดขายสินค้ากลุ่มสายโซล่า (Solar Cable) เติบโตขึ้นอีก 49.86% ในขณะที่สินค้ากลุ่มตู้จัดเก็บอุปกรณ์สื่อสาร (Rack) และกลุ่มสาย UTP (LAN Cable) เติบโตขึ้น 19.52% และ 12.81% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 (YoY) ตามลำดับ

ด้านธุรกิจวิศวกรรม (Engineering) ซึ่งรับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานที่แตกต่างกันในแต่ละงวด ไตรมาส 3/65 นี้ บริษัทฯ รับรู้รายได้จากงานโครงการก่อสร้าง จำนวน 357.23 ล้านบาท ลดลง 16.00% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2564 (YoY) แต่สูงขึ้นถึง 58.82% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 (QoQ) เป็นผลจากการปิดและส่งมอบงานโครงการ CC4 หรืองานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ให้แก่ท่าอากาศยานไทย รวมถึงมีความก้าวหน้าของงานโครงการที่สำคัญในมือ ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในจังหวัดเชียงใหม่และสุพรรณบุรี งานจ้างก่อสร้างปรับปรุงสถานีไฟฟ้านนทรีในจังหวัดปราจีนบุรี เป็นต้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 บริษัทฯ ได้ลงนามร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในสัญญาจ้างก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำ ระบบ 33 เควี ไปยังเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่าทั้งสิ้น 1,786.17 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเป็นมูลค่างานโครงการสายเคเบิลใต้น้ำที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับผลงานที่บริษัทฯ เคยรับมานานกว่า 15 ปี เช่น โครงการสายเคเบิลใต้น้ำเกาะพะงัน เกาะสีชัง เกาะล้าน เกาะมุก เกาะสุกร เกาะลิบง เกาะปูยู เกาะกูด เกาะหมาก เกาะปันหยี ฯลฯ ตอกย้ำการขึ้นครองตลาดเป็นเบอร์ 1 ในงานโครงการ Submarine Cable ของประเทศไทย ทำให้ปัจจุบัน ILINK มีรายได้รอรับรู้จากธุรกิจวิศวกรรม (Backlog) เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โตทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ได้ตั้งไว้  โดยบริษัทฯ จะยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานโครงการใหม่เพิ่มเติมอีกหลายโครงการ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจวิศวกรรมแข็งแกร่ง และทำกำไรสู่การเติบโต ต่อเนื่อง และยั่งยืนของกลุ่มบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ฯ ต่อไป

Back to top button