จับตา! ตลท.แถลงด่วน ปมเบี้ยวเงินซื้อหุ้น MORE กว่า 7 พันล้านพรุ่งนี้

จับตา! ตลท.และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย จัดแถลงข่าวด่วนพรุ่งนี้ ปมเบี้ยวเงินซื้อหุ้น MORE หลังมีกระแสข่าว 12 โบรกเกอร์อาจกระทบเสียหาย 7.5 พันล้าน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สื่อหลายสำนักได้นำเสนอข่าวว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาถึงการ “การดิ่งฟลอร์” (Floor) 2 วันติดของหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 23.69% คือนายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ราคาแรกเริ่มของ หุ้น MORE อยู่ที่หุ้นละ 0.30 บาท ก่อนจะถูกไล่ราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นมา “สูงสุด” ที่ 2.98 บาทต่อหุ้น แต่ผลดำเนินงานกลับสวนทางราคาหุ้น สะท้อนผ่านผลดำเนินงานของบริษัทที่ “ขาดทุนสุทธิ” ต่อเนื่อง ยกเว้นแต่ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,158 ล้านบาท แต่เป็นกำไรที่เกิดจากการปรับโครงสร้างหนี้และการขายทรัพย์สิน ไม่ได้เกิดจากผลดำเนินงานที่แท้จริง

แต่ปรากฎการณ์ “การดิ่งฟลอร์” (Floor) เริ่มต้นตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะเปิดการซื้อขาย หลังมีสัญญาณไฟกระพริบการตั้งคำสั่งซื้อ ATO หุ้น MORE ที่ระดับราคา 2.90 บาทต่อหุ้นจำนวน 1,500 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ เพราะราคาปิดตลาด 9 พ.ย. 65 อยู่ที่ 2.78 บาทต่อหุ้น จนถูกขนานนามว่านี้คือ ปฏิบัติการถล่มขายหุ้น ด้วยการใช้บัญชี Credit Balance หรือเรียกอีกชื่อว่า บัญชีมาร์จิ้น (Margin) ของโบรกเกอร์ทำการซื้อขาย ซึ่งมีรายงานข่าวผ่านสื่อต่างๆว่า เกิดขึ้นจากกลุ่มบุคคลที่ไปตระเวนเปิดบัญชีกับโบรเกอร์ต่างๆ ไว้ ก่อนจะส่งคำสั่งซื้อพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ 14 พ.ย. 2565 จะต้องมี ที่การชำระเงิน (เคลียร์ริ่ง) ที่จะครบดีล T+2 และด้วยมูลค่าเงินก้อนโต จึงคาดว่า “ผู้ส่งคำสั่งซื้อ” คงไม่สามารถชำระคืนเงินให้โบรกเกอร์ได้ หากเป็นเช่นนั้นโบรกเกอร์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบธุรกรรมครั้งนี้ทั้งหมด ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้ น่าจะมีการวางแผนมาอย่างดี เป้าหมายคือ ใช้เงินโบรกเพื่อปลดล็อกหุ้น นั่นแปลว่าความเสียหายก็จะเกิดขึ้นกับโบรกเกอร์ทันที โดยมีรายงานว่ามีโบรกเกอร์ 12 แห่งได้ผลกระทบ มูลค่าความเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. พบว่าหลักทรัพย์ MORE มีสภาพการซื้อขายที่ผันผวนทั้งด้านราคาและปริมาณการซื้อขายเป็นอย่างมากในวันที่ 10 พ.ย. 65 และ ยังมีความต่อเนื่องในวันที่ 11พ.ย. 65 โดยทางตลาดหลักทรัพย์ได้สอบถามพัฒนาการที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย ซึ่ง MORE ได้ชี้แจงผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 10 พ.ย. 65 ว่าไม่มีพัฒนาการสำคัญใดๆ จากความผันผวนของราคาและปริมาณการซื้อขายของหลักทรัพย์ MORE ที่อาจ ส่งผลให้ผู้ลงทุนมีความเสี่ยงในการซื้อขายได้ จึงขอให้นักลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและสารสนเทศที่แจ้งผ่านระบบตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยละเอียดรอบคอบก่อน ตัดสินใจลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ MORE

ทังนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) เตรียมจัดแถลงข่าว “แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีหุ้น MORE” ในวันจันทร์ 14 พ.ย.65 เวลา 9:00 น. โดยมี นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายก สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมแถลงข่าว ซึ่งต้องจับตาดูว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย จะมีมาตรการเรื่องนี้อย่างไร

Back to top button