TPS คว้างานท่อร้อยสายไฟ-สื่อสาร หนุนแบ็กล็อก 1.4 พันลบ. ลั่นรายได้ปีนี้โตเกิน 50%

TPS เผยบริษัทย่อย “เดอะวิน เทเลคอม” คว้า 2 งานใหม่ ก่อสร้างท่อร้อยสายไฟและท่อร้อยสายสื่อสาร มูลค่ารวมกว่า 41 ลบ. หนุนแบ็กล็อก 1.4 พันลบ. ลั่นรายได้ปีนี้โตเกิน 50% เดินหน้าประมูลงานรัฐ-เอกชนต่อเนื่อง


นายบุญสม กิจเกษตรสถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TPS เปิดเผยว่า บริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างงานท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กับบริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ ETE จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 41,566,974.80 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ประกอบด้วย 1.สัญญาจ้างโครงการ UG ท่อร้อยสายไฟความเร็วสูง 26 จุด มูลค่าโครงการ 14,042,198.50 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) กำหนดเวลาแล้วเสร็จ 106 วัน โดยมีบริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)  หรือ ETE  เป็นผู้ว่าจ้าง และบริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว

2.สัญญาจ้างโครงการ UG ท่อร้อยสาย 5 จังหวัด ภาคอีสาน ในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิและนครราชสีมา มูลค่าโครงการ 27,524,776.30 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) กำหนดเวลาแล้วเสร็จ 113 วัน โดยบริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ETE  เป็นผู้ว่าจ้าง และบริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว

ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ โดยมีการเปิดให้ประมูลงานใหม่จำนวนมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยบริษัท เดอะวิน ฯ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับงานใหม่ในครั้งนี้ ส่งผลให้ TPS มีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นเป็น  1,442  ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ เป็นต้นไป ทำให้มั่นใจว่า ปัจจัยดังกล่าว จะสามารถสนับสนุนผลงานปีนี้ให้เติบโตกว่า 50% ได้อย่างแน่นอน”

สำหรับแผนการดำเนินงานที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งโครงการภาครัฐและเอกชน โดยมีการเข้าประมูลงานของ TPS เอง และในส่วนของบริษัท เดอะวิน เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลงานโดยเฉพาะงานภาครัฐ อีกหลายโครงการ คาดว่า จะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4 ปีนี้ เป็นต้นไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการขยายธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ จากธุรกิจเดิม โดยเป็นการให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบภายหลังการขาย เพื่อยกระดับธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ให้ครบวงจร เป็นการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน  และเพื่อรองรับพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA  ที่มีผลบังคับใช้แล้ว และเพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทฯ

สำหรับธุรกิจไซเบอร์ซีเคียวริตี้ภายใต้บริษัท เอ็กซ์-ซีเคียว จำกัด (X-Secure Co.,Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจหลายราย โดยเฉพาะลูกค้าจากภาคเอกชน และคาดว่า จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ เป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสการลงทุนในโครงการใหม่ๆ รวมทั้ง การขยายธุรกิจ โดยเน้นการทำ M&A กับบริษัทที่มีผลงานการดำเนินธุรกิจที่ดีต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทได้ในระยะยาว รวมทั้งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต

Back to top button