ดับฝัน! “อาคม” รับสภาพ “ภาษีขายหุ้น” ไม่ทันรัฐบาลนี้

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เผยเก็บภาษีขายหุ้นส่อวืดยาวหากไม่มีการประกาศใช้ออกมาในเดือนมี.ค. ทันที ก็จะเก็บไม่ทันกำหนดในเดือน พ.ค. 66


แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าของร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ และกำหนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.  หรือร่างกฎหมายการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (ภาษีขายหุ้น) ว่า จากที่ทราบในขณะนี้ กระบวนการล่าสุด คือได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา และส่งร่าง พ.ร.ฎ.ฉบับดังกล่าว กลับไปที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ คือ นายกรัฐมนตรีจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนที่จะมีประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

“ทราบว่าทางกฤษฎีกา ได้ส่งร่างกฎหมายคืนกลับไปที่ สลค.เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ได้ให้ทางกรมสรรพากรเข้าไปชี้แจงรายละเอียดของข้อกฏหมายไปตั้งแต่เดือนธ.ค. และมีการปรับร่างเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ ก็อยู่ที่รอให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งขั้นตอนนี้ ไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นเมื่อไร” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ดี จากแผนเดิมที่คาดว่ากฎหมายจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ค.66 ซึ่งถ้าหากจะให้เป็นไปตามขั้นตอนนั้น ก็จะต้องมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในเดือนก.พ.นี้ เพราะกฎหมายเมื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้หลังจากนั้นอีก 3 เดือน คือมีผลในวันที่ 1 ของเดือนที่ 4 ดังนั้นความเป็นไปได้ที่กฎหมายภาษีขายหุ้นคงไม่ทันที่จะบังคับในเดือนพ.ค. ตามกำหนดเดิม

“ตอนนี้คงไม่น่าจะทันเดือนพ.ค.แล้ว เพราะถ้าเป็นตามกรอบนั้น ก็จะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในเดือนก.พ. แต่นี่เดือนก.พ.เหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว ส่วนจะเป็นช่วงไหนนั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะกฎหมายบางฉบับก็ใช้เวลามาก แต่บางฉบับก็ไม่นาน แล้วแต่จังหวะเวลา” แหล่งข่าวกล่าว

ส่วนถ้ารัฐบาลประกาศยุบสภาแล้ว ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีสภาพเป็นรัฐบาลรักษาการ จะมีผลกระทบให้ขั้นตอนการเสนอกฎหมายต้องสะดุดลงหรือไม่นั้น แหล่งข่าว กล่าวว่า ร่างพ.ร.ฎ.ดังกล่าว ถือเป็นกฎหมายของฝ่ายบริหาร ไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ ในการนำเสนอกฎหมายในระหว่างการเป็น ครม.รักษาการ เพียงแต่ความเหมาะสม หรือมารยาททางการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

อย่างไรก็ดี การผลักดันกฎหมายฉบับนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีระหว่างผู้มีเงินได้ปกติที่ต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กับผู้ที่มีเงินได้จากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมา มีการยกเว้นการจัดเก็บภาษีขายหุ้นมานานกว่า 30 ปีแล้ว เพราะต้องการสนับสนุนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเวลานั้น

ทั้งนี้ หากมีการเริ่มจัดเก็บภาษีขายหุ้นในปีแรกของการบังคับใช้กฎหมาย จะจัดเก็บในอัตราเพียงกึ่งหนึ่งของที่กฎหมายกำหนด คือ 0.055% เพื่อให้เวลานักลงทุนได้ปรับตัว ซึ่งกฎหมายกำหนดอัตราการจัดเก็บไว้ที่ 0.11% ของมูลค่าหุ้นที่ขายได้ (รวมภาษีท้องถิ่น)

อนึ่งเมื่อวันที่ (2 ก.พ.66) ที่ผ่านมา  รมว.คลัง กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกฤษฎีกา และรอทูลเกล้าฯ แต่บอกไม่ได้ว่าจะประกาศเมื่อไหร่ ซึ่งยังรออยู่ ทุกอย่างยังอยู่ในขึ้นตอนของกฤษฎีกาพิจารณา ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนแน่นอน ส่วนจะประกาศเมื่อไหร่ยังบอกไม่ได้

Back to top button