คัด 14 หุ้นปลอดหนี้ D/E ต่ำกว่า 1 เท่า เกราะป้องกันเงินเฟ้อ

“บล.เอเซีย พลัส” แนะลงทุนหุ้นงบดุลแข็งแกร่ง ชู 14 หุ้นปลอดหนี้ D/E ต่ำกว่า 1 เท่า เกราะป้องกันภาวะเงินเฟ้อ พ่วงยีลด์สูงสุด 30% นำทีมเด่น BCPG-DCC-SPALI-LALIN-AP-ITC-BDMS-M-SAT-GFPT-TTW-QH-SAPPE-CBG


บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(13 มี.ค.66) ว่า จากกระแสธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ (SVB) ล้มละลาย กดดันตลาดหุ้นโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยผันผวนในช่วงนี้แต่คาดว่ากระทบต่อตลาดหุ้นไทยจำกัด สะท้อนได้จากการเกิดปัญหาเกิดจากดอกเบี้ยสหรัฐถูกเร่งขึ้นมาเร็วกว่า 4.25% ในช่วง 1 ปีจาก 0.5% จนล่าสุดอยู่ที่ 4.75%

ขณะที่ดอกเบี้ยไทย ธปท. ปรับขึ้น 1% ในช่วง 1 ปีจาก 0.5% ล่าสุดอยู่ที่ 1.75% ต่ำกว่าสหรัฐมาก ทำให้ประสบปัญหาการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและต้นทุนการเงินที่น้อยกว่าสหรัฐมาก

ขณะที่ผลกระทบทางตรง เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการค้นหาว่า SVB ถือหุ้นใดในบริษัทจดทะเบียนไทยบ้าง ซึ่งยังไม่เห็น SVB Bank ติดรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ในหุ้นไทย แต่ในอีกมุมเห็นมี ETF ที่มีการลงทุนใน SVB Bank ได้แก่ KRE etf 2.34% , XLF etf 0.41% และกองทุนในประเทศไทย ได้แก่ KT-FINANCE , TUSFIN , ONE-GLOBFIN , KWI-USBANK, BFINTECH เป็นต้น

สรุปคือ ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนตามสหรัฐในช่วงนี้ แต่ในอีกมุมเสถียรภาพทางการเงินสหรัฐที่ลดลง กดดันให้ค่าเงินสหรัฐที่พลิกกลับมาอ่อนค่า และค่าเงินในเอเชียรวมถึงบาทที่พลิกกลับมาแข็งค่าต่ำกว่า 35 บาท/เหรียญ อีกครั้ง หนุนต่างชาติที่ลงทุนในไทยมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และตัดสินใจย้ายเม็ดเงินจากสหรัฐบางส่วนกลับมาสะสมตลาดหุ้นไทยบ้าง ภายใต้ดัชนีที่ต่ำกว่า 1,610 จุด

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำถือเงินสดบางส่วน 10-20% ส่วนหุ้นที่อาจผันผวนในช่วงสั้นคือ หุ้นกลุ่ม BANK, TECH แต่หุ้นที่น่าจะได้รับความสนใจมากขึ้น คือ หุ้นกลุ่ม Real Sector อย่าง กลุ่มอาหาร,ค้าปลีก, รับเหมาฯ โรงไฟฟ้า รวมถึงกลุ่มพลังงานที่ได้ประโยชน์จากดอลลาร์อ่อนค่า นอกจากนี้นักลงทุนน่าจะกลับมาโฟกัสเลือกหุ้นที่งบดุลแข็งแกร่งมากขึ้น

โดยฝ่ายวิจัยคัดกรองหุ้นที่เหมาะสมกับการรับมือความกังวลประเด็น ภาวะเศรษฐกิจชะงักงันและเงินเฟ้อ(Stagflation) ผ่านเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้ 1. มีเกราะป้องกันดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นหุ้นที่มีภาระหนี้สินต่ำ หรือ D/E ณ ไตรมาส 4/65 ต่ำกว่า 1 เท่า ,2. มีเกราะป้องกันภาวะเงินเฟ้อเป็นหุ้นที่มีความยืดหยุ่นต่อการกำหนดราคา Net Profit Margin มากกว่า 7% และ 3. เป็นหุ้นพื้นฐานฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อมีอัพไซด์สูง อาทิ BCPG, DCC, SPALI, LALIN, AP, ITC, BDMS, M, SAT, GFPT, TTW, QH, SAPPE, CBG ดังตารางประกอบ

Back to top button