วิกฤตแบงก์โลกฉุดตลาดผันผวน! SABUY ลดเสี่ยงปรับเพดานซื้อ SINGER เหลือ 22 บาท

วิกฤตแบงก์โลกฉุดตลาดผันผวน! SABUY ลดเสี่ยงปรับเพดานซื้อ SINGER เหลือ 22 บาท จาก 27 บาท มูลค่าลงทุนปรับลดลงเป็น 2.7 พันล้านบาท แต่ยังคงสัดส่วนเข้าซื้อเท่าเดิม 15%


บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2566 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เพิ่มเติมอีกจำนวนไม่เกิน 87,951,300 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นเฉลี่ยไม่เกิน 27 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 2,374,685,100 บาท หรือคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 10.70 ของจำนวนหุ้นชาระแล้ว ผ่านกระดานซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเมื่อรวมการซื้อหุ้นสามัญของ SINGER ในครั้งแรกตามมติการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2566 จะทำให้บริษัทฯ มีการได้มาซึ่งหุ้นสามัญของ SINGER จำนวนไม่เกิน 123,351,300 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาหุ้นเฉลี่ยไม่เกิน 27 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 3,330,485,100 บาท หรือคิดเป็นจำนวนร้อยละ 15 ของจำนวนหุ้นชาระแล้ว

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2566 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของ SINGER ตามรายละเอียดที่ปรากฏข้างต้น ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ตลาดการเงินทั่วโลก (Global Financial Market) ที่เผชิญกับความผันผวนเป็นอย่างมากและจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) มีข่าวประกาศเกี่ยวกับการขึ้นของอัตราดอกเบี้ยซึ่งส่งผลให้ Silicon Valley Bank และ Signature Bank เกิดล้มละลาย (Bank Run) เนื่องจากผู้ฝากเงินขาดความเชื่อมั่นประกอบกับธนาคารมีการขายพันธบัตรรัฐบาลออกในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยขึ้นจึงทำให้ประสบผลขาดทุนเป็นต้นเหตุที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นตลาดหุ้นทั่วโลก แม้ตลาดหุ้นในประเทศไทยจะยังไม่รายงานความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวในประเทศไทย แต่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET INDEX) นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการมีมติให้ทารายการปิดที่ 1,619.98 จุด

โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปรับตัวของ SET INDEX ซึ่งมีการปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,523.89 จุด หรือปรับตัวลดลง 96.06 จุด ในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นประเทศไทย และรวมไปถึงข่าวของธนาคารเครดิตสวิส ที่เกิดการเทขายอย่างหนักระหว่างการซื้อขายเมื่อวันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 ในตลาดหลักทรัพย์สวิตเซอร์แลนด์สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากธนาคาร ซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดจากซาอุดีอาระเบียปฏิเสธให้เงินช่วยเหลือการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นข่าวเชิงลบต่อตลาดการเงินทั่วโลกในระยะนี้ และเหตุการณ์ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนในหุ้นสามัญของ SINGER ซึ่งอยู่ในธุรกิจการเงินเช่นกัน ตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ

ดังนั้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 จึงได้มีการจัดประชุม (ด่วน) เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าวต่อการลงทุนของบริษัทฯ ในธุรกรรมซื้อหุ้นสามัญ SINGER รวมไปถึงการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องของบริษัทฯ (Trading Portfolio) และมีมติ ดังนี้

1) บริษัทฯ ยังคงมีความสนใจในการลงทุนหุ้นสามัญของ SINGER จำนวนไม่เกิน 123,351,300 หุ้น ซึ่งเป็นการลงทุนในระยะยาวด้วยเหตุผลตามที่เคยมีมติและแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไข แต่เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่ประชุมมีมติให้มีการทบทวนราคาในการเข้าลงทุนและจากการทบทวนดังกล่าวจึงเห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยนราคาการเข้าลงทุนจากราคาหุ้นละ 27 บาท เป็นราคาหุ้นละ 22 บาท ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับ มูลค่าตามบัญชีของงบการเงินของ SINGER ที่ราคาหุ้นละ 21.82 บาท ทำให้มูลค่าการลงทุนปรับลดลงจากเดิมเป็นมูลค่าไม่เกิน 2,713,728,600 บาท

2) คณะกรรมการบริหารและ/หรือคณะกรรมการการลงทุนควรพิจารณาทบทวนการเข้าลงทุนและใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาเข้าลงทุนให้มากยิ่งขึ้น โดยอาจปรับลดน้ำหนักการลงทุนใน Trading Portfolio ในตราสารทุนโดยเฉพาะหุ้นในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของราคาที่อาจปรับลดลงอย่างรวดเร็วหรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันตามที่กล่าวข้างต้น รวมถึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดกระทบต่อกำไรของบริษัทฯ และขอให้พิจารณาการเข้าลงทุนโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เป็นสำคัญ

Back to top button