“กลุ่มเซ็นทรัล” เล็งซื้อหุ้น “วินคอม รีเทล” ค้าปลีกยักษ์ใหญ่เวียดนาม

สื่อนอกตีข่าว “กลุ่มเซนทรัล” กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อหุ้น “Vincom Retail” เดินหน้าธุรกิจค้าปลีกห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งหุ้นเกือบ 60% ถือโดย Vingroup และมีมูลค่าตลาด 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ


สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน โดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในเวียดนาม Vingroup กำลังหารือกันเพื่อขายหุ้นธุรกิจศูนย์การค้า เพื่อเป็นการดึงนักลงทุนเข้ามาร่วมถือหุ้นในเชิงกลยุทธ์

สำหรับ Vincom Retail เป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ซึ่งหุ้นเกือบ 60% ถือโดย Vingroup และมีมูลค่าตลาด 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า Central Group ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและบริษัทอื่นๆ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อหุ้นใน Vincom Retail

ขณะที่แหล่งข่าว 3 รายกล่าวว่า Vingroup เปิดให้ขายหุ้นส่วนใหญ่ได้ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย และการหารือกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพกำลังดำเนินอยู่ โดย Vingroup และ Central Group ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

โดยจากมูลค่าตลาดปัจจุบันของ Vincom Retail มีความเป็นไปได้ที่ธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นหนึ่งใน M&A ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับการเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ Vingroup ซึ่งมีธุรกิจกระจายอยู่ทั่วเวียดนาม ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ รีสอร์ท ไปยังการผลิตรถยนต์ โดยกลุ่มบริษัทกำลังเทเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเร่งพัฒนา VinFast ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งบริษัท และขยายธุรกิจไปยังสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ VinFast ส่งมอบรถยนต์ 45 คันแรกให้กับลูกค้าในแคลิฟอร์เนียในเดือนนี้ โดยเป็นการขายครั้งแรกนอกเวียดนาม นอกจากนั้นยังบรรลุข้อตกลงระยะเวลา 5 ปีเพื่อพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับตลาดในอเมริกาเหนือและยุโรป

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อต้นเดือนมีนาคม โดยอ้างแหล่งข่าวว่า Vinhomes บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของ Vingroup กำลังเจรจาเพื่อขายทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับ CapitaLand Group ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย

โดย Vincom Retail เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า 83 แห่งในเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 8% ในปีที่แล้ว และกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 11% จนถึงปีนี้ เทียบกับดัชนีหุ้นมาตรฐาน VNI ที่เพิ่มขึ้น 5%

Back to top button