ส่อง 14 หุ้น mai ราคาทะยานเกิน 20% ไตรมาสแรก นำทีม ARIP พุ่ง 58%

เปิดโผ 14 อันดับกลุ่ม mai ราคาพุ่งแรงไตรมาสแรก MTW-ARIP-WARRIX-PPS-PRI-YONG-GLORY-TMI-TMC-DHOUSE-TITLE-GTV-PRAPAT และ OTO จับตา YONG-PRI-TMI-PRAPAT-OTO วิ่งต่อหลังแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 66 เติบโตแกร่ง


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 โดยเปรียบเทียบจากราคาหุ้นปิดสิ้นสุดปี 2565 (30 ธ.ค.) กับราคาหุ้นปิด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566  พบว่ามี 14 บริษัทราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 20% ซึ่งเอาชนะดัชนี mai ที่ลงไปกว่า 57.16 จุด หรือ 9.78%

ส่วนหนึ่งเป้นการเข้ามาเก็งกำไรจากสัญญาณเทคนิคขาขึ้น และมีปัจจัยบวกเฉพาะทาง โดยบริษัทที่ปรับตัวขึ้นได้แก่ MTW, ARIP, WARRIX, PPS, PRI, YONG, GLORY, TMI, TMC, DHOUSE, TITLE, GTV, PRAPAT และ OTO เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ทางข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ขอยกตัวอย่างหุ้นบางตัวที่ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาแรง พร้อมค่อนข้างมีสภาพคล่อง และมีประเด็นบวกเฉพาะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งคาดว่าผลประกอบการในปี 2566 เติบโตแกร่ง ผลดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ในช่วงระยะดังกล่าวอย่างเช่น

บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG โดยราคาปิด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 2.08 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 3.04 บาท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 0.96 บาท หรือขึ้นไป 46.15% โดยนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร เชื่อว่าแนวโน้มผลประกอบการปี 2566 จะสามารถเติบโตแข็งแกร่ง หลังจากบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง ช่วยผลักดันผลงานเติบโตต่อเนื่อง

บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI โดยราคาปิด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 24.60 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 37 บาท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 12.40 บาท หรือขึ้นไป 50.41% ส่วนหนึ่งเป็นการเข้ามาลงทุน หลังบริษัทฯ เผยแนวโน้มผลงานปี 2566 อาจเห็นการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตรด้วย ซึ่งปัจจุบันมีการเจรจากับพันธมิตรมากกว่า 3 ดีล เพื่อเดินหน้า M&A และ JV ร่วมกัน หลังจากบริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้แตะ 1,300 ล้านบาท

รวมถึงคาดว่าช่วงครึ่งแรกของปี 2566 จะสามารถปิดดีล M&A ธุรกิจต้นน้ำ คือ กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Per-Living Services) เข้ามา 1 บริษัท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งการซื้อกิจการในครั้งนี้จะเข้ามาหนุนการเติบโตของ PRI ต่อเนื่อง

บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI โดยราคาปิด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 1.49 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 2.06 บาท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 0.57 บาท หรือขึ้นไป 38.26% สำหรับราคาหุ้นดีดตัวขึ้นเหตุนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร พร้อมตอบรับแผนปี 2566 ว่าบริษัทเดินหน้าขยายลงทุนโรงไฟฟ้าชีวภาพกำลังการผลิต 3-5 เมกะวัตต์ภายในปีนี้  รวมถึงธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ส่องสว่างที่กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ และการรับรู้รายได้เต็มปีจากธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวภาพทั้ง 3 แห่ง

บริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT โดยราคาปิด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 1.65 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 2.04 บาท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 0.39 บาท หรือขึ้นไป 23.64% สำหรับราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาร้อนแรง เป็นการตอบรับสัญญาณบวกการฟื้นตัวของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักและสร้างรายได้เข้าประเทศอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่ารายได้ปี 2566 กลับมาเติบโตแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO โดยราคาปิด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ระดับ 13.80 บาท เมื่อเทียบกับราคาปิด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 17 บาท พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้น 3.20 บาท หรือขึ้นไป 23.19% สำหรับราคาหุ้นดีดตัวขึ้นร้อนแรงนักลงทุนเข้าเก็งกำไรหลังจากมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 คาดว่าบริษัทฯจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากแผนการลงทุนในธุรกิจใหม่ รวมทั้งธุรกิจ Call Center และ Contact Center ธุรกิจ E-Sport มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ประกอบกับพอร์ตการลงทุนของบริษัทมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีเช่นกัน และเราเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจ EV จะเป็น New S-curve ให้กับธุรกิจ และเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 

Back to top button