MGC เทรดสนั่น! โบรกชูเป้า 10.70 บาท ปีนี้กำไรโต 2%

ไอพีโอป้ายแดง MGC ลงสนามเทรดวันแรก ลุ้นวิ่งชนเป้า 10.70 บาท โบรกมองกำไรปีนี้โต 21% พ่วงพีอีต่ำเพียง 17 เท่า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 เม.ย.66) หลักทรัพย์ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดยานยนต์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “MGC”

โดย MGC ดำเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ครบวงจร ประกอบด้วย 1) การจัดจำหน่ายยานยนต์ รถยนต์ BMW MINI Honda Rolls-Royce, รถจักรยานยนต์ BMW Motorrad Harley-Davidson, เรือยอชท์ Azimut และเรือแม่น้ำ Chris Craft โดยกลุ่มบริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ BMW MINI อันดับ 1 และ Honda เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย 2) บริการหลังการขาย ศูนย์บริการยานยนต์แต่ละยี่ห้อและศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ ภายใต้ชื่อ Master Motor Services (MMS)

3) บริการให้เช่ารถยนต์และคนขับ ภายใต้ชื่อ Master Car Rental และ Master Driver & Services รวมถึงจัดหาลูกค้าให้แก่ VistaJet ซึ่งเป็นธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจสนับสนุนที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารจัดการ บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และ บริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์

สำหรับ MGC มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 560 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 840 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 280 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 18 – 20 เมษายน 2566 ในราคาหุ้นละ 7.95 บาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,904 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 14.72 เท่า โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ และมีบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมจัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญในครั้งนี้

นายสัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ “MGC” เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้น MGC จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเสริมศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทางอย่างครบวงจร และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำมาใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ ธุรกิจสินเชื่อยานยนต์หรูและมารีน ชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วนจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาวของกลุ่มบริษัท

MGC มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและตามที่บริษัทกำหนดไว้ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน สภาพคล่อง ความจำเป็นในการลงทุน การขยายธุรกิจ การสำรองเงินไว้เพื่อจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืม หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานของบริษัท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินเกี่ยวกับหุ้น MGC ว่าจะมีกำไรปี 66 เติบโตแข็งแกร่ง 21% จากปีก่อน หนุนจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ฟื้นตัวได้ 3.6% จากปีก่อน รวมถึงการเริ่มธุรกิจใหม่ๆ เช่น ตัวแทนจำหน่ายเรือแม่น้ำ ธุรกิจสินเชื่อ รวมไปถึงการขยายสาขาตัวแทนจำนวนและศูนย์บริการ พร้อมประเมินราคาเป้าหมาย 10.70 บาท อิงพีอี 17 เท่า

Back to top button