ลุ้น MGC โชว์กำไร Q1 แตะ 80 ล้าน รับยอดขายธุรกิจ “รถอีวี” หนุน

จับตา MGC โชว์กำไรหลักไตรมาส 1/66 แตะ 80 ล้านบาท โต 30% จากปีก่อน รับยอดขายธุรกิจ “ยานยนต์ไฟฟ้า” หนุน


บล.บัวหลวง จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของ บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC หลังบริษัท โตโยต้า ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถึงยอดขายรถยนต์ทั่วประเทศที่ลดลง 6.1% จากปีก่อนในไตรมาส 1/66 แต่อุปสงค์สำหรับกลุ่มรถพรีเมี่ยมและรถหรูยังคงแข็งแกร่ง โดยในกลุ่มแบรนด์พรีเมี่ยม BMW ยังคงรักษาความเป็นผู้นำรายงานยอดขายไตรมาส 1/66 ที่ 4,580 คัน ตามด้วย Benz (4,310 คัน) และ Volvo (995 คัน) ทั้งนี้ยอดลงทะเบียนรถคันใหม่ของ BMW ในประเทศไทยอยู่ที่ 4,133 คันในไตรมาส 1/66 เติบโต 19% จากปีก่อน รวมถึงรถไฟฟ้า 234 คัน (เทียบกับเพียง 14 คันสำหรับ Benz)

ทั้งนี้ คาด MGC จะรายงานยอดขายที่เติบโต 15% จากปีก่อน ในไตรมาส 1/66 โดยหนุนมาจากทุกกลุ่มธุรกิจยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าที่ขยายตัว จะหนุนธุรกิจขายปลีกยานยนต์ของบริษัท ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 100 คัน จากปีก่อน ปกติยอดขายยานยนต์ไฟฟ้าจะให้อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่า เนื่องจากอุปทานที่จำกัด ขณะที่อุปสงค์แข็งแกร่งมาก ดังนั้นราคาส่วนลดจึงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป นอกจากนี้การส่งมอบเรือยอร์ชของ MGC ที่เข้ามาในไตรมาส 1/66 จะช่วยหนุนรายได้อีกแรง จึงคาดกำไรหลักไตรมาส 1/66 ของ MGC ที่ 80 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อน

สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. – 2 เม.ย. มียอดจองรถยนต์ที่เติบโต 34.5% จากปีก่อน ไปอยู่ที่ 42,885 คัน โดย BMW เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เติบโตแข็งแกร่งด้วยยอดจอง 1,111 คัน เพิ่มขึ้น 9% YoY (เทียบกับที่เติบโต 11% ในงานปี 2565) ในทางตรงกันข้าม Benz รายงานยอดจองในงานลดลง 25% จากปีก่อน

โดยในงานนี้ BMW ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ได้แก่ X1 XM ซีรี่ย์ 7 และ X7 นอกจากยอดจองรถจำนวนมากแล้ว เรือยอร์ช Azimuth จำนวน 2 ลำยังมีกำหนดส่งมอบในช่วงไตรมาส 2/66 ดังนั้นคาดจะเห็นกำไรหลักที่เติบโตแข็งแกร่งจากปีก่อนและไตรมาสก่อนในไตรมาส 2/66 แต่คาดพีคของปี 66 จะเป็นไตรมาส 4/66

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยเทียบ MGC กับผู้ประกอบการ IT ในไทย ตลาดประมาณการการเติบโตของกำไรกลุ่ม IT ไตรมาส 1/66 ที่เพียง 5% จากปีก่อน (ซึ่งบางรายการเติบโตติดลบด้วย) เทียบกับที่คาดเติบโต 30% สำหรับ MGC นอกจากนี้ตลาดทำประมาณการเติบโตของกำไรกลุ่ม IT ปี 66 เฉลี่ยที่ 10%

ขณะที่คาดกำไรหลักของ MGC ปี 66 จะอยู่ที่ 624 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน และคาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนในปี 67 ที่ 22% และ 17% ในปี 68 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตสะสมเฉลี่ยของกำไรปี 66-68 ที่ 21%

ด้านของมูลค่า ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบนระดับ PER ปี 66 ที่ 16 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม IT ที่ 18 เท่า โดยเชื่อว่า PER ของ MGC ควรจะอยู่ในระดับ 25 เท่าหรือสูงกว่านั้น ซึ่งเป็นระดับปกติของ PER กลุ่ม IT ในช่วงการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง

Back to top button