XO โบรกอัพกำไรปี 66 ใหม่เฉียด 500 ล้านบาท เพิ่มเป้า 18.70 บาท

XO ลุ้นยอดขายในปี 66 เพิ่มขึ้น 20% รับคำสั่งซื้อทวีปอเมริกา-ยุโรปพุ่ง ส่งผลให้ บล.โกลเบล็ก อัพรายได้ปี 66 เป็น 1.75 พันล้านบาท ส่วนกำไรสู่ระดับ 496 ล้านบาท พร้อมปรับคำแนะนำเป็นซื้อ อัพราคาเป้าหมาย 18.70 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (26 พ.ค.66) เกี่ยวกับหุ้น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO หลังจากรายงานกำไรไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 96.5 ล้านบาท เติบโต 18% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทมีการรับรู้รายได้ไตรมาส1 ปี 2566 อยู่ที่ 395 ล้านบาท เติบโต 2% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโต 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะเดียวกันมีรายได้เติบโตจากไตรมาส 4 ปี 2565 เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อใหม่จากทวีปอเมริกาและคำสั่งซื้อจากยุโรปเริ่มฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการปรับเพิ่มราคาขายขึ้นอีก 8-12% (ทยอยปรับราคาระหว่างไตรมาส 1 ปี 2566-ไตรมาส 3 ปี 2566)

ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปรับตัวขึ้นจาก 40.0% สู่ 44.3% ตามการปรับเพิ่มราคาขาย ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบบทั้งน้ำตาล พริกและกระเทียมทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนเนื่องจากการล็อกราคาล่วงหน้าไว้แล้ว ด้านสัดส่วนค่าใช่จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงจาก 21.7% ในไตรมาส 4 ปี 2565 สู่ 17.9% เนื่องจากไม่มีค่าใช่จ่ายในการทำโปรแกรมบริหารจัดการองค์กรและบัญชี (ERP)และการออกใบสำคัญ แสดงสิทธิให้แก่พนักงาน (ESOP) เหมือนไตรมาสที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ไตรมาส 2 ปี 2566 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทมี Distributor รายใหม่ในสหรัฐ แคนนาดา และเม็กซิโกซึ่งมีการส่งคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่คำสั่งซื้อจากยุโรปฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้จะมีการเปิดประเทศและประชาชนเริ่มเดินทางท่องเที่ยวก็ตาม

ทั้งนี้ด้านอัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสเร่งตัวขึ้นเนื่องจากทางบริษัทได้ล็อกต้นทุนพริกกระเทียม และน้ำตาลไปถึงกลางปี 2567 แล้วและคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้มี Economies of Scales ดังนั้นผู้บริหารได้ปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี 2566 จาก 1.6 พันล้านบาท สู่1.75 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการเติบโต 10% เมื่อเทีบยกับงวดเดียวกันของปีก่อน สู่ 20% เมื่อเทีบยกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากแรงหนุนของคำสั่งซื้อจากทวีปอเมริกาหลังได้ Distributor รายใหม่

ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 สู่ระดับ 496 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากประเมินเดิมที่ 369 ล้านบาท พร้อมปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 2566 เป็น 1.75 พันล้านบาท จากเดิม 1.56 พันล้านบาท แล้วจะเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการออกงานแสดงสินค้า 15-22 งานต่อปีเพื่อหาลูกค้าใหม่และคาดว่าคำสั่งซื้อจาก Distributor ในสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโกจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจาก 40% สู่ 45% (จากไตรมาส 1ปี 2566 อยู่ที่ 44%) เนื่องจากการปรับเพิ่มราคาไม่ได้ทำให้คำสั่งซื้อชะลอลงแต่กลับเร่งตัวขึ้นเนื่องจากมีความต้องการบริโภคจากทวีปยุโรปและอเมริกา

นอกจากนี้บริษัทได้ล็อกราคาต้นทุนพริกกระเทียม และน้ำตาลไปจนถึงกลางปี 2567 แล้ว โดยราคาน้ำตาลที่ปรับตัวขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากคิดเป็นสัดส่วนต้นทุนเพียง 8% ของต้นทุนการผลิตทั้งนี้บริษัทใช้น้ำเชื่อมในการผลิตซึ่งราคาปรับตัวขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำตาล ส่งผลให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 จาก 369 ล้านบาท สู่496ล้านบาทเพิ่มขึ้น 34% จากประมาณการเดิมและเติบโต 46% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าไตรมาส 2 ปี 2566 รายได้และกำไรจะสูงที่สุดในปีนี้ แต่อ่อนตัวลงในครึ่งหลังของปี 2566

โดยจากปัจจัยข้างต้นปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากเดิมถือ พร้อมปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น  18.70 บาท จากเดิม 13.20 บาท

Back to top button