“ชัยยศ” แนะช้อนซื้อ GFPT-MTC รับปัจจัยบวกเฉพาะ

ชัยยศ จิวางกูร มองตลาดหุ้นไทยอาจย่อตัวลง เหตุราคาน้ำมันดิบร่วง-จับตา ส.ส. ของพรรครีพับลิกันโหวตเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ พร้อมแนะดักเก็บหุ้นมีปัจจัยบวกลงลึกอย่าง GFPT-MTC ขณะที่มองหุ้นแบงก์ยังเด่น และ ADVANC น่าสอย


นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการข่าวหุ้นเจาะตลาด วันนี้ (31 พ.ค.66) ว่าตลาดหุ้นยังความกังวลเกี่ยวกับประเด็นในประเทศสหรัฐ หลังจาก ส.ส. ของพรรครีพับลิกันบางคนไม่มันใจกับการโหวตปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐในคืนนี้ จึงส่งผลให้ทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีการปรับตัวลงมา

ทั้งนี้ ประกอบกับยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย. ไม่รู้ทิศทางจะออกมาเป็นอย่างไร เนี่องจากซาอุดิอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตราคาน้ำมันลง แต่รัสเซีย ระบุว่าไม่ต้องการที่จะลดกำลังการผลิตลงก็เลยส่งผลให้ราคาน้ำมันเมื่อคืนนี้ลดลงมาด้วยซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย

“สำหรับผลไม่ว่าจะออกมาเป็นแบบไหนในเรื่องของการผิดนัดชำระหนี้ตรงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกเคยเกิดขึ้นมาแล้วแต่จำปีไม่ได้ เป็นการผิดนัดแบบทางเทคนิคเท่านั้นเองเพื่อรอผลการโหวดในครั้งถัดไป ผมเชื่อว่าคำว่าความเศรษฐกิจในประเทศเราต้องมาก่อน สุดท้ายผมเชื่อว่าเขาต้องพูดคุยกันได้ ตกลงกันในที่สุด ซึ้งในอดีตก็เคยมีลักษณะแบบนี้มาแล้วรอบหนึ่ง นายชัยยศ กล่าว

ส่วนหุ้นที่ลงมาลึกในช่วงที่ผ่านมา อาจเป็นโอกาสเข้าช้อนซื้อได้ในวันนี้ โดยชี้เป้าไปในแง่ของหุ้นที่หน้าเก็งกำไรช่วงหุ้นเมื่ออ่อนตัว  ยังคงแนะนำหุ้น บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เนื่องจากราคาไก่ในประเทศมีการปรับตัวขึ้น 10% จากประมาณการเดิม 41 บาทต่อกิโลกรัม อาจขึ้นไป 47บาทต่อกิโลกรัม เพราะมั่นใจว่ากลุ่มที่ทำธุรกิจฟาร์มไก่จะได้รับประโยชน์ในจุดนี้ ส่วนราคาหมูปรับลง สาเหตุมีราคาหมูเถื่อนเข้ามาทำให้มีผลทั้งเชิงบวกและลบ คาดว่าน่าจะได้รับประโยชน์เรื่องของตัวไข้หวัดนกที่บราซิลด้วย อย่างไรก็ตามให้ราคาพื้นฐาน 15.90 บาท

ถัดมาหุ้นแนะนำกลุ่มไฟแนนซ์ คือ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC มองว่าวันนี้ประชุมกนง.วันนี้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2% มองว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในการปรับดอกขึ้นเบี้ยเพราะว่าเงินเฟ้อของบ้านเราลงต่ำกว่า 3% โดยให้ราคาพื้นฐานอยู่ที่ 49 บาท

ขณะเดียวกันกลุ่มแบงก์ยังมองว่าดูดีคาดว่าผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่อง ถ้าบอกว่าตัวไหนลงมาแรงๆ อย่างเช่น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK, บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ซึ่งราคายังนิ่งไม่ค่อยขยับขึ้นมาก ต่างกับราคาหุ้นของ  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ราคาขึ้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ถ้าเป็นกลุ่ม ICT ก็ถือว่าน่าลงทุนโดยเฉพาะหุ้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC คาดว่าไตรมาส 2/2566 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีแต่ว่าราคาหุ้นไม่ได้ลงมาเยอะมากจึงเหมาะกับการเข้าซื้อสะสมได้เช่นกัน

Back to top button