ERW ท็อปพิก! ยิ้มรับ “ท่องเที่ยว” ฟื้นแรง หนุนรายได้โรงแรมพุ่ง

โบรกมองปี 66 กลุ่มโรงแรมคาดว่าจะเริ่มจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศ หลังจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ชู ERW ท็อปพิก หนุนสัดส่วนรายได้โรงแรมเพิ่มขึ้น


บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นโรงแรม คือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW และ บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA โดยมองว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีเข้าสู่ระดับ 68% ของช่วงก่อนโรคโควิดระบาดในเดือนเม.ย. ขณะที่คาดแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2566 หนุนจากมีจำนวนเที่ยวบินผู้โดยสารหนาแน่นขึ้น และยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 ไว้เดิมที่ 28 ล้านคน โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่ 4 เดือนเป็นต้นไป สูงขึ้นอยู่ที่ 8.7 ล้านคน หรือประมาณ 62% ของช่วงเดียวกันในปี 2562 ก่อนโควิดระบาด

ทั้งนี้ ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้นเป็น 74% ของก่อนโควิด และยังคงประมาณปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 38 ล้านคน คิดเป็น 95% ของก่อนโควิด

อย่างไรก็ตาม การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีความแตกต่างกันแต่ละประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และชาวรัสเซียจะมีปริมาณสูงขึ้นกว่าช่วงก่อนโควิด ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงต่ำอยู่ที่ 37% และชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ 30% เป็นเพราะมีการเปิดประเทศล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ ในอนาคตยังคาดการเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวไทยจะนำโดยนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวญี่ปุ่นเป็นหลัก คาดว่า ERW จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการมีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมและสาขาในประเทศไทยสูงอยู่ที่ 92% และ SPA อยู่ที่ 97%

ขณะที่ ทั้ง ERW และ SPA มีรายได้และกำไรฟื้นตัวช้าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด และมีผลขาดทุนในปี 2565 เนื่องจากธุรกิจขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยวไทยเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ERW มีอัตราการเติบโตรายได้ในปี 2566 เติบโต 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการเติบโตรายได้ เติบโต 47% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าเมื่อเทียบกับ กลุ่มโรงแรมที่คาดเติบโตเฉลี่ย 19%

คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 สดใสตามโมเมนตัมแข็งแกร่งเดือนเมษายน 2566 ซึ่งอัตราการเข้าพักโรงแรมเดือนเมษายน 2566 แข็งแกร่ง โดยเฉพาะ ERW อยู่ที่ 84% ส่วนหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เติบโตอยู่ที่ 72% และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT สูงขึ้นอยู่ที่ 70% และ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR เติบโตอยู่ที่ 70%

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารทั้ง CENTEL และ MINT ได้อานิสงส์จากเทศกาลสงกรานต์ ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายสูงขึ้นทำให้ CENTEL มีอัตราการเติบโตของรายได้ในสาขาเดิม (SSSG) สูงที่ 8% และอัตราการเติบโตของรายได้รวม (TSSG) อยู่ที่ 13%และ MINT มีอัตราการเติบโตของรายได้ในสาขาเดิม (SSSG) สูงที่ 12% และอัตราการเติบโตของรายได้รวม (TSSG) อยู่ที่ 24% โดย MINT มีการเติบโตของธุรกิจอาหารที่สูงกว่าเนื่องจากร้านอาหารจีนกลับมาเปิดดำเนินการได้หลังการล็อกดาวน์

ทั้งนี้ ยังคงมุมมองบวกและให้น้ำหนักกลุ่มโรมแรม Overweight เลือก ERW เป็นหุ้นเด่น ในฐานะที่ได้ประโยชน์ชัดเจนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศ และชอบ ERW มากกว่า SPA เนื่องจาก มีอัพไซด์สูงกว่าโดยเปรียบเทียบที่ 35% อิงจาก ERW ปัจจุบัน trading EV/EBITDA ที่ 15.3 เท่า หรือเท่ากับ +0.5SD รวมทั้งการฟื้นตัวแข็งแกร่งมีอัตราการเข้าพักโรงแรมเดือนเมษายน 2566 น่าประทับใจ

Back to top button