“เอกภาวิน” แนะเก็บ SCGP เป้าทำ “Window Dressing”

นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ ( 26 มิ.ย. 66) ว่าภาพรวมของ SET นั้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,470-1,480 จุด มองว่า down side น่าจะเริ่มจำกัดเมื่อลงไปต่ำกว่า 1,500 จุด เพราะดูจากตัวค่า PE หากอิงกับ earning ในปีหน้านั้น นับว่าค่า PE เฉลี่ยประมาณ 14 เท่า ในส่วนของดัชนีนั้นมองว่าน่าสนใจเริ่มถูกแล้วมีเม็ดเงินไหลเข้ามาสามารถซื้อได้

ทั้งนี้ ถ้าดูปัจจัยลบต่างๆ ก็จะสะท้อนไปในหลายมุม เช่น เรื่องอัตราดอกเบี้ยของทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งแม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย แต่ภาวะเงินเฟ้อก็ลงต่อเนื่อง และด้านดัชนี BMI ในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ยังมีการลงต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่เหนือระดับ 50 แต่นับว่าเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับ 2 เดือนที่แล้ว

ด้านตลาดแรงงานก็ลดความตึงตัวลง ส่วนเฟดก็จะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้น สัญญาณที่จะเพลาการปรับดอกเบี้ยลง มองว่าอยู่ในช่วงปลายปี 66 ตัวเงินก็จะมีโอกาสเข้ามาสู่ imagine market ได้ เพราะค่าเงินดอลลาร์ก็จะมีโอกาสอ่อนค่า และค่าเงินบาทจะแข็งค่า

ด้านภาพรวมของ SET จากต้นปีจนถึงปัจจุบันมองว่า under perform ส่งผลให้ตลาดกลับมามี upside และเชื่อว่าจะเป็นจุดดึงดูดให้ตัวเงินเข้ามา ถ้าหากสถานการณ์การเมืองนั้นมีความชัดเจน เพราะฉะนั้นการปรับลงจึงมองว่าเป็นโอกาสซื้อมากกว่า

นอกจากนี้ หุ้นที่เหมาะแก่การลงทุนในสถานการณ์แบบนี้ ได้แก่กลุ่ม earning play มองว่าเป็นธีมที่แข็งแกร่งและทนทานต่อภาวะตลาดที่ผันผวนได้ เช่น หุ้นกลุ่มแบงก์ ตัวที่น่าสนใจ คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL คาดว่าในไตรมาสที่ 2/66 ของภาพรวมกลุ่มแบงก์น่าจะเป็นภาพการชะลอไตรมาสต่อไตรมาส และสามารถเติบโตในไตรมาสต่อไตรมาสได้อีกด้วย โดยมองว่าเติบโตได้ 50% ซึ่งราคาแนวรับอยู่ที่ประมาณ 160-162 บาท ราคาแนวต้านอยู่ที่ 166.50-170 บาท หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ราคาแนวรับที่น่าลงทุนคือ 37-38 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 47 บาท

นายเอกภาวิน กล่าวอีกว่า ตามสถิติในไตรมาส 2/66 มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการทำ window dressing และจะมีหุ้นที่ราคาลงมาเยอะ เป็นเป้าสำหรับการทำ Window Dressing ได้ แนะลองดูหุ้นบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เพราะเป็นหุ้นที่กองทุนมีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันราคานั้นลงไปเยอะ โดยให้จุดแนวรับเดิมที่ 37 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 41-42.50 บาท