SAV เบอร์หนึ่ง “วิทยุการบิน” กัมพูชา พร้อมเทรดปลาย Q3 ชูปันผลยั่งยืน

SAV หุ้น IPO ด้านการบินประกาศพร้อมเทรดปลายสิงหาคม ถึงต้นกันยายน 2566 ชูหุ้นปันผลยั่งยืนจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ หลังรายได้ “วิทยุการบิน” กัมพูชาเติบโตต่อเนื่อง คาดเป้ารายได้ปีนี้โตถึง 40%


กลายเป็นอีกหนึ่งบริษัทในกลุ่มธุรกิจการบินที่เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นั้นคือ บริษัท บริษัทสามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้อนุมัติไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อย เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 224,000,000 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 35.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท โดยมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น

ล่าสุด SAV ได้นำสื่อมวลชนมาดูการทำงานของบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด หรือ CATS ซึ่ง “SAV”  ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยนายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAV เปิดเผยว่า SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจหลักคือการให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่าน CATS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินของกัมพูชาเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545-2594 ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชาในสนามบิน 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง

โดยรายได้หลักของ CATS ในปี 2565 มาจากบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท ได้แก่ รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing &Take-off : Domestic) จำนวน 10.04 ล้านบาท คิดเป็น 0.9% รายได้จากเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) จำนวน 279.87 ล้านบาท คิดเป็น 25.8% และรายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) จำนวน 796.29 ล้านบาท คิดเป็น 73.3% ซึ่งยังเป็นช่วงที่ธุรกิจการบินของกัมพูชายังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ จึงคาดว่าสัดส่วนรายได้ของธุรกิจการบินในปีนี้ สัดส่วนเที่ยวบินในประเทศ และเที่ยวบินจากต่างประเทศจะเพิ่มมากขึ้นในระดับก่อนโควิด-19

พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 40% หรือคิดเป็นประมาณ 1,600 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,086.20 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตจากฐานต่ำ และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการบินกัมพูชาที่กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมีเที่ยวบินจากจีนกลับเข้ามา

สอดคล้องกับข้อมูลของบริษัทวิจัยนานาชาติ คาดว่าในปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกกัมพูชา จะเพิ่มมากกว่าช่วงก่อนโควิด-19 หรือปี 2562 ที่มีปริมาณกว่า 6.6 ล้านคน และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีกว่า 100,000 เที่ยวบิน และจะเพิ่มเป็น 134,000 เที่ยวบินในปี 2567 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 30% คาดการณ์ว่าจะทยอยเดินทางมายังกัมพูชาในช่วงปลายปี 2566 และกลับมาอย่างชัดเจนในต้นปี 2567

โดยปัจจุบัน “SAV” มีสนามบินในกัมพูชา 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง และมีการลงทุนสร้างสนามบินนานาชาติใหม่ 3 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนนักเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นได้แก่ 1.สนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ ในเฟสแรกสามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 10 ล้านคน  2. สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 8 ล้านคน ในเฟสแรก และมีแผนขยายให้สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 20 ล้านคน 3.สนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติของเอกชนแห่งใหม่ที่จะรองรับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาในอนาคต รวมมูลค่าการลงทุน 340 ล้านบาท

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในกัมพูชานั้น นายธีระชัย มั่นใจว่า จะไม่มีผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานที่มีเหลืออยู่ประมาณ 20 ปี เนื่องจากสัญญาสัมปทานที่ทำกับรัฐเป็นไปตามมาตรฐานสากล และ SAV ยังจ่ายค่าสัปทานให้กับรัฐสูงถึงร้อยละ 40 ของเงินสดที่จัดเก็บจากสายการบินที่มาใช้บริการ และมีโอกาสที่จะขยายเวลาสัมปทานจากการลงทุนในอนาคต SAV

นายธีระชัย ยังคาดการณ์ว่า SAV น่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ภายในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2566 หรือ ต้นเดือนกันยายน 2566 โดยวัตถุประสงค์ในการระดมทุน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเพื่อรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ บริษัทเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี และมองว่าหุ้นของ SAV เป็นหุ้นที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ ซึ่ง SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจแกนคือให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร

Back to top button