สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ส.ค.2566

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 300 จุดในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,474.83 จุด ลดลง 290.91 จุด หรือ -0.84%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,370.36 จุด ลดลง 33.97 จุด หรือ -0.77% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,316.93 จุด ลดลง 157.70 จุด หรือ -1.17%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไป

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 451.19 จุด ลดลง 4.10 จุด หรือ -0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,191.74 จุด ลดลง 68.51 จุด หรือ -0.94%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,676.90 จุด ลดลง 112.55 จุด หรือ -0.71% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,310.21 จุด ลดลง 46.67 จุด หรือ -0.63%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มป้องกันประเทศ ขณะที่นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย หลังจากการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้เกิดความวิตกว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไป

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,310.21 จุด ลดลง 46.67 จุด หรือ -0.63%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) ขานรับความหวังที่ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 80.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 84.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,920 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) และปิดในแดนลบติดต่อกัน 9 วันทำการ ซึ่งเป็นสถิติการปิดลบที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2560 โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.10 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,915.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.80% ปิดที่ 22.715 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 895.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,220.50 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 103.5739

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0857 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0879 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2728 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2725 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3546 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3535 ดอลลาร์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.9363 โครนา จากระดับ 10.9211 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.0890 เยน จากระดับ 146.2300 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8797 ฟรังก์ จากระดับ 0.8800 ฟรังก์