RBF ตั้งเป้ารายได้ “ตปท.” ปีนี้โต 45% แย้มโรงงานอินเดีย คาดเสร็จไตรมาส 1/67

RBF แย้มโรงงานในอินเดียเตรียมก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/67 หลังตัวเลขรายได้อินเดียในครึ่งปีแรกพุ่งทะลุเป้า 50 ล้านบาท ส่วนโรงงานในอินโดนีเซียเฟส 2 ก่อใกล้เสร็จแล้ว สามารถเดินเครื่องได้ภายในไตรมาส 3/66 นี้ พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศในปี 2566 เติบโตราว 40-45%


แพทย์หญิงจัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการบริษัท และนายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF ร่วมให้ข้อมูลผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2566 ที่ผ่านมา และทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ผ่านระบบออนไลน์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 153.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.95% เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 115.29 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิ 300.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 278.16 ล้านบาท โดยรายได้เติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจกลุ่มวัตถุแต่งกลิ่น รส และสีผสมอาหาร รวมถึงกลุ่มแป้งและซอส

ขณะที่ส่วนของ EBITDA เติบโตแข็งแกร่งเช่นกัน โดยไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 251 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 203 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกอยู่ที่ 486 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 457 ล้านบาท

สำหรับอัตราส่วนของค่า ROE (ณ สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2566) อยู่ที่ 11.6% ขณะที่ค่า ROA อยู่ที่ 15.10% ถือว่าปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และค่า D/E Ratio อยู่ที่ 0.20 เท่า ซึ่งถือว่าบริษัทมีสภาพคล่องมากสามารถขยายธุรกิจได้อีกมาก

นอกจากนี้ แนวโน้มครึ่งปีหลังประเมินว่ายังเติบโตดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าผลการดำเนินงานในส่วนของรายได้จากในประเทศไทยเติบโตทรงตัว ขณะที่เป้าการเติบโตต่างประเทศมีความชัดเจนในการเติบโตค่อนข้างสูงและโดดเด่น  เช่น ประเทศอินเดีย ที่ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีเติบโต 50 ล้านบาท แต่สามารถทำรายได้ในครึ่งปีแรก ทะลุไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท ส่วนประเทศจีน มีการเติบโตดีต่อเนื่องทำให้บริษัท ฯ มีการปรับเป้าใหม่ รวมถึงประเทศอินโดนีเซีย ที่ยังเติบโตอยู่แม้ว่าจะช้ากว่าปกติก็ตาม และประเทศญี่ปุ่น ที่ยอดขายกลับมาโตค่อนข้างดีหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย โดยคาดว่ายอดส่งออกในปีนี้จะสามารถเติบโตราว 100 ล้านบาท ใกล้เคียงยอดเดิมช่วงก่อนโควิด และมีประเทศอื่น ๆ ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้น

ขณะที่สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเฟส 2 ปัจจุบันการก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องได้ภายในไตรมาส 3/2566 และเริ่มรับรู้รายได้ในปลายไตรมาส 3/2566 หรือในไตรมาส 4/2566 ส่วนโรงงานในประเทศอินเดีย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียเริ่มก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/2567 พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้จากต่างประเทศในปี 2566 เติบโตราว 40-45%

Back to top button