PSP เคาะขายไอพีโอ 6.2 บ. เปิดจอง 22-24 ส.ค.นี้ ลุยเทรด SET ปลายเดือนนี้

PSP เคาะขายราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 6.2 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดจอง 22-24 ส.ค.66 รุกสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรและมีการเติบโตสูง ตอบรับเมกะเทรนด์อุตสาหกรรม เดินหน้าเข้าเทรด SET ปลายเดือนนี้


บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บริษัท หลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO

นายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSP เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปี ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร (Total Solution Provider) ในภูมิภาคอาเซียนและเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นอิสระรายใหญ่ของประเทศไทย ที่มีการผลิตน้ำมันหล่อลื่น (Lubricant) น้ำมันผสมยาง (Rubber Process Oil) และน้ำมันหม้อแปลง (Transformer Oil) รวมสูงที่สุด

รวมไปถึงส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในหลายผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการให้บริการที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ของอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และนำองค์ความรู้การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และมีห้องปฎิบัติการที่ทันสมัย เพื่อนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ภายใต้แบรนด์ลูกค้า รองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน ควบคู่กับการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการต้นทุนและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

ด้านบริษัทฯ พร้อมนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สอดรับกับเทรนด์อุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและวิจัยผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์น้ำมันเกียร์และจาระบีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ผลิตภัณฑ์หล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี่รถไฟฟ้า (EV Cooling) ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น (Lubricant) หรือจาระบี (Grease) สำหรับแบตเตอรี่ และน้ำมันหม้อแปลงชีวภาพ (Bio Transformer Oil) การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เป็นต้น

โดยรวมถึงการขยายตลาดไปยังต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเป็น 25% ของรายได้จากการขายรวม ภายในปี 2569 จากปัจจุบัน ปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 17% โดยหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์และการลงทุนภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ

นางสาววีรยา ศรีวัฒนะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ CGS-CIMB จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า PSP ถือเป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งจากข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์หล่อลื่นอิสระรายใหญ่ของไทยที่มีการผลิต และการให้บริการที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Value Chain) ของอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันหล่อลื่น และมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ

โดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรและมีการเติบโตสูง ประกอบกับการใช้ความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งโรงงานและกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ PSP ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของกิจกรรมการผลิตในภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น จึงได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ของ PSP ที่ราคา 6.2 บาทต่อหุ้น และเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 22-24 สิงหาคมนี้ และคาดว่าจะนำหลักทรัพย์ของ PSP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในวันที่ 30 สิงหาคมนี้

ทั้งนี้ PSP จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตจากแผนนำเงินไปลงทุนในโรงงานของบริษัทฯ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต เช่น เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านต้นทุนและขีดความสามารถการแข่งขัน ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจากการเข้าลงทุนซื้อ U.C. Marketing ที่เสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้มีความแข็งแกร่ง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไป

นายกันย์ โชติภักดีตระกูล ผู้บริหารฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.กสิกร ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม กล่าวว่า PSP มีศักยภาพเติบโตสูงจากแผนลงทุนเชิงกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและเทรนด์อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตเพื่อรักษามาตรฐานการผลิตและนำเสนอการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อรักษาความเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ช่วยส่งเสริมการเติบโตที่ดีและยั่งยืน

นอกจากนี้ ด้วยนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 35 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อบังคับของบริษัทฯ จะทำให้ PSP ได้รับความตอบรับที่ดีของนักลงทุนอย่างแน่นอน

Back to top button