MGC เปิดตัวโรลส์-รอยซ์ EV รุ่นแรก เริ่มส่งมอบปี 67

MGC เปิดตัว “สเปกเตอร์” อีวีรุ่นแรก “โรลส์-รอยซ์” ยนตรกรรม อัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ รุ่นแรกของโลก เริ่มส่งมอบปี 67


โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ครบวงจร เปิดตัว โรลส์-รอยซ์ “สเปกเตอร์” (SPECTRE) ยนตรกรรม อัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ รุ่นแรกของโลก ครั้งแรกในประเทศไทย โดยได้รับเสียงตอบรับดี ความต้องการสูง กำหนดรับรถยาวตลอดปี 2567

ด้าน ไอรีน นิคเคียน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เปิดเผยว่า มีความยินดีที่ได้เฉลิมฉลองการเปิดตัว โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ในประเทศไทย ซึ่งเป็นรถที่มีการพูดถึงและได้รับความสนใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ โดยประเทศไทยนับเป็นตลาดหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยรถยนต์รุ่นนี้ก็นับเป็นยนตรกรรมที่มีความสำคัญกับการก้าวสู่โลกของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของเรา ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นร่วมสมัย ผสานห้องโดยสารที่เอื้อต่อการตกแต่งแบบ Bespoke แบบไร้ขีดจำกัด ร่วมกับความล้ำสมัยในเชิงวิศวกรรมและนวัตกรรมใหม่ๆ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ สเปกเตอร์ มีจุดเด่นตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ พันธุ์แท้ ทุกประการ

ขณะที่ นายกฤษฎา สวามิภักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงคอก กล่าวว่า ประเทศไทยเปรียบได้กับศูนย์กลางแห่งความหรูหราในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มจำนวนของเจ้าของกิจการและผู้ประกอบธุรกิจรุ่นใหม่ ที่ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง สเปกเตอร์ ก็นับว่ามาเปิดตัวในช่วงเวลาที่เหมาะสม ยนตรกรรม อัลตรา-ลักชัวรี อิเล็กทริค ซูเปอร์คูเป้ คันนี้ นับว่าอยู่ในจุดสูงสุดของตลาดรถยนต์ และกระผมก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วม ในการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นสำคัญให้กับลูกค้าในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ สำหรับการก้าวไปสู่โลกของรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของ โรลส์-รอยซ์

สเปกเตอร์ (SPECTRE) เรียกว่าเป็นรุ่นเปิดตำนานบทใหม่ของ โรลส์-รอยซ์ ด้วยขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ผสานความล้ำสมัยของระบบ Decentralised Intelligence จึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของ โรลส์-รอยซ์ 3.0 แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์และจุดเด่นตามแบบฉบับของ โรลส์-รอยซ์ พันธุ์แท้ ทุกประการ ควบคู่ไปกับเป้าหมายในการทำให้ยนตรกรรมทุกรุ่นที่จำหน่าย ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2573

สเปกเตอร์ เป็นยนตรกรรมรุ่นที่ 4 ที่ใช้แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส และผ่านการออกแบบมาเพื่อรองรับกับขุมพลังไฟฟ้าอย่างลงตัว ทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งของสเปซเฟรม อีก 30% เมื่อเทียบกับ โรลส์-รอยซ์ รุ่นอื่นๆ ส่วนแบตเตอรี่ได้รับการติดตั้งบริเวณพื้นรถ ที่นอกจากช่วยให้ห้องโดยสารมีพื้นเรียบ และเบาะนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงและมีการทรงตัวดีขึ้น ก็ยังทำหน้าที่เป็นแผ่นกันเสียงรบกวนที่มีน้ำหนัก 700 กิโลกรัมอีกด้วย

โดยการเปิดตัวของ โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ แสดงถึงความเชื่อมั่นของ โรลส์-รอยซ์ ว่ารถยนต์ไฟฟ้า คือ หนทางสู่อนาคต เหนือกว่าเทคโนโลยีไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจาก 2 มอเตอร์ SSM (Separately Excited Synchronous Motors) ด้านหน้า 190 กิโลวัตต์ / 365 นิวตันเมตร ด้านหลัง 360 กิโลวัตต์ / 710 นิวตันเมตร หรือมีสมรรถนะใกล้เคียงกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป พละกำลัง 430 กิโลวัตต์ (584 hp) แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ภายใน 4.5 วินาที

สำหรับระยะทางในการขับ ทางแบรนด์ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มลูกค้า เพื่อให้ทราบถึงความต้องการในการใช้งานที่แท้จริง ซึ่งระยะทางสูงสุดที่สามารถขับได้ไกลถึง 530 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) นับว่าสูงกว่าที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ ทำให้ สเปกเตอร์ เป็นยนตรกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โรลส์-รอยซ์ ได้เป็นอย่างดี จากการที่ลูกค้า โรลส์-รอยซ์ ส่วนใหญ่ มักมีรถยนต์ใช้งานประมาณ 7 คัน และขับรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ของตนเอง เป็นระยะทางประมาณ 5,100 กิโลเมตรต่อปี

นอกจากนั้น ทางผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้า ในการติดตั้งระบบชาร์จไฟที่บ้านอีกด้วย ซึ่ง สเปกเตอร์ สามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ใน 34 นาที ผ่านระบบชาร์จไฟกระแสตรง (195 กิโลวัตต์-DC) และสามารถวิ่งได้ไกล 100 กิโลเมตร เมื่อผ่านการชาร์จไฟเพียง 9 นาทีเท่านั้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบช่วยขับ คือ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Active Lane Centring) และอะแด๊ปทีฟครูสคอนโทรล เพื่อการขับที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สำหรับแบตเตอรี่นั้น ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผลิตจากแร่โคบอลต์และลิเธียม จากแหล่งผลิตที่มีการควบคุมเข้มงวดในออสเตรเลีย,โมรอคโค และ อาร์เจนตินา ซึ่งเซลล์ภายในแบตเตอรี่ผลิตขึ้นด้วยพลังไฟฟ้าที่มาจากธรรมชาติ 100% พร้อมทำการทดสอบภายใต้อุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -40 องศาเซลเซียส ไปจนถึงร้อนจัดกว่า 50 องศาเซลเซียส ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเหมาะสมสำหรับการใช้งานทุกสภาวะ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์อันชาญฉลาด

นอกจากนี้ ยังมีไฮไลต์โดดเด่น อย่าง ระบบกักเก็บพลังงานจากการเบรก โดยระบบจะทำงานเมื่อผู้ขับกดปุ่มที่มีสัญลักษณ์ ‘B’ บริเวณก้านควบคุม ซึ่งการใช้งานใน ‘Brake Mode’ รถยนต์จะมีการหน่วงอัตโนมัติเมื่อผู้ขับยกคันเร่ง จากการกักเก็บพลังงานที่มากขึ้น ส่งผลให้สามารถขับได้ โดยแทบไม่ต้องแตะเบรก (Single-pedal driving) แต่หากผู้ขับเลือกใช้โหมด ‘low recuperation’ อาการหน่วงเมื่อยกคันเร่งจะมีไม่มากนัก ให้ความรู้สึกคล้ายการขับ โรลส์-รอยซ์ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปมากกว่า

SPIRIT-สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา มาในแบบดิจิทัล สปิริต (SPIRIT) เป็นสถาปัตยกรรมดิจิทัล ที่ช่วยให้ผู้ครอบครอง สเปกเตอร์ ได้เชื่อมต่อกับรถยนต์ของตนอย่างใกล้ชิดกว่าที่เคย นอกเหนือจากการควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ขณะใช้รถ สปิริต ก็เป็นส่วนหนึ่งของแอพพลิเคชั่น ‘วิสเปอร์ส‘ (Whispers) ของ โรลส์-รอยซ์ ทำให้เจ้าของรถสามารถสั่งการได้จากระยะไกล

ประตูอิเล็กทรอนิกส์ (Effortless Doors) สเปกเตอร์ มีประตูยาว 1.5 เมตร แบบไร้เสากลาง เชื่อมด้วยเลเซอร์ ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวก ในการเปิด-ปิด พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษที่มีเฉพาะ สเปกเตอร์ เมื่อผู้ขับเหยียบเบรก ประตูจะปิดโดยอัตโนมัติ

สำหรับรูปลักษณ์ของโรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ได้แรงบันดาลใจ โดยนำรูปลักษณ์อันโดดเด่นและประณีตในทุกรายละเอียด ของ เรือยอชท์ทรงสปอร์ต มาปรับใช้อย่างชาญฉลาด ขณะที่กระจังหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเสาของวิหารแพนธีออน (Pantheon grille) ก็มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยติดตั้งกับรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ซี่กระจังผลิตจากสเตนเลสปัดเงา พร้อมผิวสัมผัสนุ่มเรียบ เพิ่มความอลังการด้วยแอลอีดี 22 ดวง ที่ส่องแสงกระทบกับพื้นหลังเสาที่ผ่านการพ่นทราย เกิดเป็นมุมมองที่งดงามแบบ 3 มิติยามค่ำคืน

สัญลักษณ์นางฟ้าบริเวณหน้ารถ (Spirit of Ecstacy) ถูกรังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับ สเปกเตอร์ โดยปรับให้มีลักษณะต่ำลงเล็กน้อย และดูลู่ลมยิ่งขึ้น ใช้เวลาในการออกแบบและทดสอบในอุโมงค์ลม รวมกว่า 830 ชั่วโมง หรือกว่า 1 เดือน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ สเปกเตอร์ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำมาก (drag coefifficient) เพียง 0.25cd ส่งผลให้ สเปกเตอร์ เป็นรถที่มีอากาศพลศาสตร์ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์

ภายในของ สเปกเตอร์ พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีและหลากหลายฟีเจอร์พิเศษแบบ Bespoke อาทิ ประตูดาว (Starlight Doors) ซึ่งติดตั้งเป็นครั้งแรกกับ โรลส์-รอยซ์ ในการการผลิต ส่องแสงอ่อนๆ เป็นประกายระยิบระยับ ผ่าน 4,796 ดวงดาว หรือหากลูกค้าต้องการ ก็สามาเลือกติดตั้งแผงไม้ คานาเดล (Canadel panelling) ที่ผลิตขึ้นด้วยมือจากไม้ชั้นเลิศ

งดงามกับแดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) บริเวณฝั่งผู้โดยสาร ผ่านการฉลุเป็นชื่อ ‘SPECTRE’ ล้อมรอบด้วยประกายดาวมากกว่า 5,000 ดวง ส่วนเบาะคู่หน้าก็สามารถเลือกสีบริเวณปีกเบาะ ให้เข้ากันกับบริเวณรองนั่ง หรือเลือกสีตัดกันได้ตามชอบในสไตล์เทเลอร์เมดตามแบบชาวอังกฤษ รวมไปถึงส่วนอื่นๆ ที่ โรลส์-รอยซ์ เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียด แบบ Bespoke ได้ตามจินตนาการไร้ขีดจำกัด

โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส มีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีไฟฟ้ามายาวนาน โดยช่วงปี 2443 มร. ชาร์ลส์ โรลส์ ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ โรลส์-รอยซ์ ได้ทำนายอนาคตของรถยนต์ไฟฟ้า หลังได้มีโอกาสขับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อว่า “The Columbia Electric Carriage” โดยเล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบอันยั่งยืนของยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

อาทิ การปราศจากมลพิษ และเสียงรบกวน เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีเครือข่ายสถานีชาร์จรองรับอย่างเพียงพอ” จากนั้นช่วงปี 2554 โรลส์-รอยซ์ ก็ได้เผยโฉมยนตรกรรมต้นแบบ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ที่พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่น แฟนธอม (Experimental Phantom concept) ภายใต้รหัส 102EX และตามมาด้วย 103EX ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำยุคและสื่อถึงแนวทางในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ โรลส์-รอยซ์ ในอนาคตได้อย่างชัดเจน

สำหรับ โรลส์-รอยซ์ สเปกเตอร์ ราคาเริ่มต้น 31.8 ล้านบาท (รวมภาษี) ไม่รวมออปชั่น

Back to top button