“เกียรตินาคินภัทร” อัพคำแนะนำ “ซื้อ” ADVANC เป้าใหม่ 275 บาท รับรายได้ธุรกิจมือถือโตแกร่ง

บล.เกียรตินาคินภัทร ปรับคำแนะนำ “ซื้อ” ADVANC ราคาเป้าหมายใหม่ 275 บาท รับรายได้จากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่จะเติบโตแกร่งในปีหน้าตามเศรษฐกิจไทย


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS เผยแพร่บทวิเคราะห์ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โดยคงระดับคำแนะนำ “ซื้อ” และตั้งเป้าหมายราคา 275.00 บาท จากราคา ณ วันที่วิเคราะห์ 224.00 บาท

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีรายได้จากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ จะเติบโตตามผลิตภัณฑ์รวมในประเทศไทย (GDP) อีกทั้งปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 2% และกำไรปี 2568 เพิ่มขึ้น 5% และประเมินว่าการเปลี่ยนแปลงของตลาดอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนจะลดลง

โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 275 บาทจาก 266 บาท และใช้ค่าเฉลี่ยระหว่างวิธีการคิดลดกระแสเงินสดจากอนาคต (Discounted Cash Flow : DCF) กับเป้าหมายมูลค่ายุติธรรมโดยใช้วิธีคำนวณอัตราส่วนมูลค่าบริษัทต่อกำไรก่อนหัก ดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EV/EBITDA)

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คำนวณโดยใช้ต้นทุนเฉลี่ยของกิจการ (Weighted Average Cost of Capital: WACC) ที่ 9% อัตราการเติบโตในระยะสุดท้าย (Terminal Growth Rate) ที่ 1% และเป้าหมาย EV/EBITDA ที่ 9.5 เท่า โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ซึ่งจะพิจารณาจากอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมและการคาดการณ์การเติบโตของกำไรหลังวิกฤตโควิด-19 ที่จะเร่งตัวขึ้นในปี 2566 และปี 2567

สำหรับผลกระทบต่องบการเงินหรือผลกำไรขาดทุนสุทธิ (P/L) จากการรวมบัญชี 3BB อาจเป็นเชิงลบหรือเป็นกลางในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการรับรู้ผลประโยชน์หลังจากเสร็จสิ้นการยกเลิกสัญญาระหว่าง 3BB และ JASIF อีกทั้งผลประโยชน์ดังกล่าวจะกระทบต่อ P/L อย่างไรนั้น จะขึ้นอยู่กับวิธีปฏิบัติทางบัญชี ซึ่งสามารถรับรู้เป็นรายการเพียงครั้งเดียว และตัดจำหน่ายเป็นเวลาหลายปี ซึ่งฝ่ายบริหาร ADVANC ย้ำว่ากระแสเงินสดสุทธิจะเป็นบวกทันที ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ได้พิจารณาการจ่ายค่าเช่าที่ลดลงใน OPEX รวมของ ADVANC ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาร่วมด้วย

ขณะที่ฝ่ายบริหารของ ADVANC เปิดเผยว่า ยังคงมีมุมมองเป็นเชิงบวก แม้ว่าอัตราการเติบโตของรายได้จากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ลดต่ำกว่าอัตราการเติบโตของ GDP ไทย ตลอดช่วง ปี 2560 ถึงปี 2565 (ยกเว้นปี 63) และรวมถึงช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ก็ตาม คาดการณ์ว่า การเติบโตของรายได้ผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่จะสอดคล้องกับการเติบโตของ GDP ที่ 3-4% จากการที่ ADVANC และ TRUE ขึ้นราคาบริการต่างๆ พร้อมกัน โดยการควบรวมกิจการของ TRUE กับ DTAC จะทำให้มีต้นทุนที่ลดลง จากการทำซินเนอร์ยี่รวมกัน (Cost Synergy)

ส่งผลให้ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีความเสี่ยงต่ำ ที่ผู้ให้บริการอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ทั้ง ADVANC และ TRUE จะกลับมาแข่งขันด้านราคาอีก โดยขึ้นอยู่กับว่าผู้บริโภคสามารถทนต่อการขึ้นค่าบริการและกรณีใช้งานของ 5G ได้มากเพียงใด ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่รายได้จากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่จะเติบโตเร็วกว่าอัตราการเติบโต GDP ของไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Back to top button