“บียอนด์” มองบวก EA ซื้อหุ้นคืน ชี้ราคาสูงกด “ดาวน์ไซด์จำกัด” ชูเป้า 84 บ.

“บลจ.บียอนด์” มองบวก EA ซื้อหุ้นคืนมูลค่าไม่เกิน 3 พันล้านบาท หนุนราคาสูง 6 เดือนข้างหน้า และดาวน์ไซด์จำกัด รวมถึงผู้บริหารมั่นใจฐานะการเงินแกร่ง โดยยังคงให้ราคาเป้าหมาย 84 บาท หลังงบไตรมาส 3/66 ออกมาเติบโตแข็งแกร่ง


บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้นของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ระบุว่ามีผลประกอบการไตรมาส 3/2566 แข็งแกร่ง ผนวกกับการซื้อหุ้นคืนด้วยมูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 84 บาท และยังคงแนะนำเข้าซื้อหุ้นในช่วงอ่อนแอกว่าระดับ 45 บาท โดยมองว่าบริษัทจะรายงานงบการเงินที่แข็งแกร่งในไตรมาสถัดไป รวมถึงจะได้ปัจจัยเชิงบวกจากโครงการซื้อหุ้นคืน

ทั้งนี้ประเมิน EA มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่แข็งแกร่งถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิหลัก (Core NP) อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนั้นบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนด้วยเงินถึง 3 พันล้านบาทในจำนวนไม่เกิน 58 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นเฉลี่ยที่หุ้นละ 51.7 บาท

ดังนั้น นักวิเคราะห์เน้นถึงประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งจากโรงผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์และฟาร์มกังหันลม โดยมีรายได้ 3,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากปัจจัยด้านกำลังการผลิตที่แข็งแกร่งของฟาร์มกังหันลม ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 220 จิกะวัตต์-ชั่วโมง (GWh) หรือเพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่โซลาร์ฟาร์มสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 154 GWh หรือเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน

2.บริษัทฯ มีรายได้จาก EV ถึง 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,500 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 3 ปี 2566 มีการส่งมอบ EV ได้ประมาณ 300 คัน ซึ่งทั้งหมดเป็นรถบัสไฟฟ้าที่ไม่ใช่ของ Thai Smiles Bus (TSB) และรถบรรทุกไฟฟ้า และหากนับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 โดยบริษัทได้ส่งมอบ EV ไปแล้วถึง 2,079 คัน และสร้างรายได้ถึง 10,300 ล้านบาท

3.บริษัทฯ มีรายได้จากแบตเตอรี่อยู่ถึง 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีก่อนอยู่ที่ 490 ล้านบาท จากการเดินเครื่องเต็มกำลังของโรงงานผลิต

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ประกาศการซื้อหุ้นคืนถึง 3,000 ล้านบาท โดยไม่เกินจำนวน 58 ล้านหุ้น หรือ 1.55% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดที่ราคาหุ้นสูงสุดที่ 51 บาท/หุ้น ซึ่งสูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน (ราคาปิดครึ่งเช้าของวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566) ที่ 44.25 บาท

โดยนักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในงวดไตรมาส 3 ปี 2566 และการซื้อหุ้นคืนดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯ ได้เริ่มการส่งมอบ EV ในข้างต้นให้กับลูกค้าแล้ว สำหรับในไตรมาส 4 ปี 2566 ไปจนถึงปี 2567 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า EA จะมีกำไรสุทธิรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง ซึ่งจะอยู่ในช่วง 2,000-3,000 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจาก การส่งมอบ EV ที่ไม่ใช่ TSB ที่สูงขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์มองว่าการซื้อหุ้นคืนจะช่วยหนุนราคาหุ้นให้สูงขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เนื่องจาก 1.งบประมาณในการซื้อหุ้นคืนถึง 3,000 ล้านบาท บ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารของ EA มีความมั่นใจในฐานะทางการเงินในอนาคตโดยไม่มีความเสี่ยงด้านเงินทุน

2) ราคาอยู่ที่ 51 บาทต่อหุ้น จากงบซื้อหุ้น 3,000 ล้านบาท อยู่ที่จำนวน 58 ล้านหุ้นนั้น จะจำกัด Downside ของราคาหุ้น

3) การซื้อคืนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฝ่ายบริหารในฐานะบุคคลภายใน เชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันนั้นอยู่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็นไปอย่างมาก

Back to top button