AH กวาดกำไร Q3 ทะลุ 400 ล้าน มั่นใจรายได้ปี 66 โตตามเป้า

AH รายงานงบไตรมาส 3/66 กำไรแตะ 432 ล้านบาท กวาดรายได้ 7.8 พันล้านบาท รับธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ใน-ต่างประเทศ มั่นใจรายได้ปี 66 โต 10-15% ตามเป้า


นาย เย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อา ปิ โก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์, ศูนย์บริการหลังการขาย, ธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ, และ IoT (Internet of Things) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวม 7,792 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 242 ล้านบาท หรือเติบโต 3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 7,550 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิหลัก (ไม่รวมกำไร – ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน 432 ล้านบาท

โดยเพิ่มขึ้น 1.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ทำไว้ 426 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวม 23,308 ล้านบาท หรือเติบโต 12.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและมีกำไรสุทธิหลัก (ไม่รวมกำไร -ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยน 1,328 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.3% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำไว้ 1,113 ล้านบาท โดยผลประกอบการไตรมาส 3/2566 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เติบโตเนื่องจากมีการส่งออกของผลิตภัณฑ์ใหม่ไปยังประเทศอาร์เจนตินา และแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ ประกอบกับมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ของลูกค้าต่างประเทศมีการกระจายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและหลากหลายส่งผลให้ยอดขายเติบโตทั้งในประเทศไทย จีน และโปรตุเกส ขณะที่ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรวมถึงศูนย์บริการรถยนต์ในประเทศมาเลเซียมียอดขายที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากการเปิดโชว์รูมรถยนต์ Proton ในเดือนตุลาคมปี 2565

ขณะที่ล่าสุด Proton ได้มีการออกโมเดลรุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2566 อย่างไรก็ตามการเติบโตดังกล่าวได้ถูกลดทอนลงจากการชะลอตัวลงของยอดขายรถยนต์ ทั้งนี้สำหรับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศก็มีผลกระทบเช่นกันเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามบริษัทยังสามารถทำรายได้รวมเติบโตได้ดีกว่าการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมในเชิงปริมาณการผลิต (คัน) ที่ลดลง 6%

รวมไปถึงบริษัทได้ยุติการดำเนินกิจการ ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) ที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 20% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นมา จึงส่งผลให้ไม่มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทดังกล่าวในไตรมาสนี้ แต่บริษัทยังคงเน้นย้ำถึงการยุติการดำเนินการดังกล่าวว่าและไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักแต่อย่างใด

“โดยท่ามกลางสภาวะความท้าทายทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง AH คาดผลประกอบการทั้งปียังสามารถเติบโตได้ตามแผนและเติบโตได้ดีกว่าอุตสาหกรรม ประกอบกับจะเริ่มมีการเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จาก Avee กลุ่มบริษัท Proton ในมาเลเซียที่ทางบริษัทได้เข้าไปลงทุนในสัดส่วน 60% โดยกลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจไปในหลากหลายประเทศนี้ จะทำให้ AH สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคตได้อย่างแน่นอน” นายเย็บ ซู  กล่าว

นอกจากนี้เป้าหมายรายได้ในปี 2566 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้รวมเติบโต 10-15% ได้ตามแผน เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 28,348 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์เสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล จากฐานการผลิตในหลากหลายประเทศทั่วโลกและมองหาโอกาสขยายการเติบโตในประเทศที่มีฐานลูกค้าหลักอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง ประเทศสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น  ทั้งนี้บริษัทยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ พร้อมรองรับการเติบโตควบคู่ไปกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย

Back to top button