CENTEL ส่งซิก Q4 โตเด่น รับยอดจองห้องพักพุ่ง 70% ดันรายได้ปีนี้ทะลุหมื่นล้าน

CENTEL ส่งซิกไตรมาส 4/66 โตเด่น รับยอดจองห้องพักพุ่ง 70% ดันรายได้ปี 66 ทะลุ 1.08 หมื่นล้านบาท พร้อมวางงบปี 67 แตะ 8.7 พันล้านบาท เดินหน้าขยายโรงแรม รวมถึง M&A และ JV


นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยถึงภาพรวมผลประกอบการของบริษัทในงาน Opportunity Day  จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 66 ว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ยังคงมีทิศทางดีต่อเนื่อง โดยภาพรวมธุรกิจโรงแรมปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ของเดือนตุลาคม มองว่าอัตราการเข้าห้องพักจะอยู่ระดับที่สูงกว่า 70% รวมถึงค่าไฟที่จะลดลงจากส่วนของนโยบายภาครัฐให้จะเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในไตรมาสนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้เชื่อว่า จะส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจ

โดยภาพรวมในปี 2566 สำหรับธุรกิจโรงแรมจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,800 ล้านบาทขึ้นไป (รวมรายได้จากโรงแรมในประเทศไทย , มัลดีฟส์ , โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และดูไบ) ซึ่งคาดว่า Occupancy rate ในปีนี้จะอยู่ที่ 68-72% และ รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน (RevPar) จะอยู่ที่ 3,400-3,700 บาทต่อห้องต่อคืน

ส่วนรายได้รวมธุรกิจอาหารถ้าไม่รวมกับ JV จะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 3,200-3,300 ล้านบาทในส่วนของเซลล์ สำหรับภาพรวมทั้งปีอยู่ที่ 12,500 ล้านบาท ซึ่งหากรวม JV จะอยู่ที่ประมาณกว่า 14,000 ล้านบาท เติบโต 14% ซึ่งคาดว่ามีการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิมจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% โดยรวมการเติบโตของยอดขายรวม (TSS) จะเพิ่มขึ้น 8-10%

ส่วนปี 2567 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 7,100 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจอาหาร 1,000 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ 6,100 ล้านบาท ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวไม่รวมกับโดรงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาทั้ง M&A และ JV ประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยหลักๆ มาจากโครงการมัลดีฟส์และเซ็นทรัลแกรนด์ วิลล่า พัทยา และเซ็นทาร่ากะรน ภูเก็ต ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงซ่อมแซม และในปี 2568 ใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 4,900 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอาหารอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท และธุรกิจโรงแรมอยู่ที่ 3,900 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจปี 2567 จะดีกว่าปี 2566 หลังรับรู้รายได้เต็มปี จากการเปิดโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ค่าห้องเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000 เยน และ อัตราการเข้าพัก (Occupancy rate) มากกว่า 80%

นอกจากนี้เตรียมเปิดบริการโรงแรมที่มัลดีฟส์ภายในปี 2567 ช่วงเดือนพฤศจิกายน และการปรับราคาค่าห้องที่โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช ริสอร์ทในช่วงกลางปี 2567 หลังจากไม่มีการปรับปรุงห้องเพิ่มเติม ตลอดจนจะมีการขยายห้องเพิ่มขึ้นที่ โรงแรมเซ็นทารา กะรน รีสอร์ท ภูเก็ต หลังไม่มีการลงทุนขยายในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นห้องพักที่แตกต่างจากปัจจุบัน

“ส่วนงบลงทุนปี 2567-2568 ประมาณ 12,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งรวม M&A และ JV ส่วนใหญ่ยังเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจโรงแรม ทั้งการขยายห้องพัก ปรับปรุง การก่อสร้าง เพื่อทำให้เราสามารถปรับค่าห้องขึ้นได้ในอนาคต” นายกันย์ กล่าว

อนึ่ง ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73.77 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 78.06 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 5,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอาหารเพิ่มขึ้น

ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 823.48 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 99.69 ล้านบาท

Back to top button