WHA ส่งซิกรายได้ปี 67 “ออลไทม์ไฮ” เตรียมเปิดแผนธุรกิจ 31 ม.ค.นี้

WHA ส่งซิกรายได้ปี 67 ทำออลไทม์ไฮต่อเนื่อง รับอานิสงส์การขยายตัวธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ลุยลงทุนพัฒนานิคมฯ “เวียดนาม” เตรียมแถลงแผนดำเนินงานปี 67 วันที่ 31 ม.ค. นี้


นายไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานปี 66 คาดการณ์รายได้ทำ All time high จากการขยายตัวของธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ขณะที่ปี 67 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ลุ้นทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง พร้อมเตรียมแถลงแผนการดำเนินงานปี 67 ในวันที่ 31 ม.ค. 67

นอกจากนี้ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม บริษัทอยู่ในระหว่างการพัฒนา 4 โครงการ โดยประกอบด้วยโครงการที่เป็นส่วนต่อขยายจากนิคมฯ เดิม และนิคมฯ ใหม่ รวมทั้งหมดภายใน 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีทั้งหมด 18 โครงการที่อยู่ในการดำเนินงานของบริษัท ขณะที่ในพื้นที่เวียดนามอัตราการขายมากกว่า 80% ของพื้นที่ทั้งหมด

ด้านนายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทดำเนินการขยายนิคมฯ เดิมที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนในประเทศ ขณะที่นิคมที่เวียดนามมีโมเมนตัมจากนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก

โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนานิคมฯ ที่เวียดนามเมือง Nghe An เฟส 2 ความคืบหน้าอยู่ที่ประมาณ 70% นอกจากนี้บริษัทเตรียมขยายที่ดินเพิ่มอีก 230 เฮคตาร์ เป็นการพัฒนาเฟสที่ 3 ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้บริษัทได้ยื่น IRC หรือการยื่นขอลงทุนกับรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้รับเอกสารเข้าไปพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และบริษัทยังมีแผนขยายเฟสที่ 4 และ 5 ต่อเนื่อง

รวมถึงบริษัทยังเตรียมสร้างนิคมฯ เพิ่มที่เมือง Thanh Hoa ในเวียดนามซึ่งได้ยื่น IRC ของไซต์แรกไปที่ประมาณ 500 เฮคตาร์เมื่อปลายปี 66 ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากรัฐบาล คาดการณ์ว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการแรกได้ปลายปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าในปี 67 อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับรถยนต์ยังเป็นลูกค้าหลักของบริษัท หลังจากปีที่ผ่านมามีการเข้ามาลงทุนของบริษัทประกอบชิ้นส่วนรถยนต์จำนวนมาก อาทิ บีวายดี ฉางอาน ซึ่งต่อจากนี้เมื่อลูกค้าดังกล่าวสร้างโรงงานเสร็จ คาดว่าจะเห็นกลุ่มซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมดังกล่าวเข้ามาลงทุน ซึ่งบริษัทเริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีของนักลงทุนกลุ่มซัพพลายเชนต่าง ๆ อาทิ แบตเตอรี่ และระบบคอนโทรล ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ตามเข้ามาลงทุน

Back to top button