SSP ลุยลงทุน “โซลาร์ไต้หวัน” 17 MW ตั้งเป้า 5 ปีผลงานโตเท่าตัว

SSP โชว์ผลงานปี 66 มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ 862.3 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติปันผลเป็นเงินสด 0.1 บาท/หุ้น ขึ้น XD 7 พ.ค. 67 และเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 17 MW ในประเทศไต้หวัน พร้อมปักหมุด 5 ปี ทำผลงานเติบโตเท่าตัว


นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 812.3 ล้านบาท  SSP มีกำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 862.3 ล้านบาท ขณะที่ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2566 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 มีกำไรหลักจากการดำเนินงาน 165.5 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 766.9 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาพรวมของผลดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2566 มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมประเทศเวียดนาม, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN ในประเทศไทยที่มีผลดำเนินงานที่ดี และยังมีรายได้จากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (EPC) ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการรับรู้กำไรเต็มปีจากโรงไฟฟ้าวินด์ชัยฟาร์ม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 25% ในเดือนมีนาคม 2565 และจะเห็นว่าโครงการต่างๆ ที่บริษัทฯ เข้าไปลงทุนล้วนเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดีมาโดยตลอด

นอกจากนี้ บอร์ดยังอนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวันขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17 เมกะวัตต์ ด้วยสัดส่วนผู้ถือหุ้น 100% มูลค่าการลงทุนจำนวนไม่เกิน 1,220 ล้านบาท

ขณะที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2566 เป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.1 บาท/หุ้น ขึ้นอยู่กับ AGM ในวันที่ 26 เมษายน 2567 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 กำหนดจ่ายวันที่ 24 พฤษภาคม 2567

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯเตรียมเข้าลงทุนโครงการวินชัยอีก 75% หลัง EGM ผู้ขายอนุมัติเพิ่มมูลค่าเงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท โครงการโซลาร์ฟาร์ม Leo 2 ในญี่ปุ่น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าการลงทุน 2,700 ล้านบาท ลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 4.5 พันล้านบาท ลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศไต้หวันมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 1,220 ล้านบาท และศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในมณฑลผิงตง ประเทศไต้หวัน กําลังการผลิตติดตั้ง 38 เมกะวัตต์

ขณะนี้ได้มีการลงนาม MOU ร่วมกับ J&V Company เพื่อร่วมพัฒนาโครงการเพิ่มเติม และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในจังหวัดบาโก ประเทศฟิลิปปินส์ กําลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ คาดจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมิถุนายน 2567 คาดว่ามีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และพร้อมในการเดินหน้าขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ระดมเงินจากสถาบันการเงินที่ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด ซึ่งล่าสุด SSP ได้ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability Linked Loan : SLL) ของ EXIM BANK จำนวน 2,000 ล้านบาท สำหรับนำไปใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนให้เกิดพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2567 จะเห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน พร้อมตั้งเป้าภายในระยะเวลา 5 ปีจะเติบโตกว่าเท่าตัว

Back to top button